ครม.เห็นชอบร่างพรบ.ว่าด้วยรัฐบาลดิจิทัล ทำให้เสร็จภายใน5ปี

หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยรัฐบาลดิจิทัล เนื่องจากปัจจุบันการทำงานของหน่วยงานรัฐ ไม่สามารถนำเทคโนโลยีมาใช้อำนวยความสะดวกได้เต็มที่และข้อมูลยังไม่เชื่อมโยงกัน  ทำให้ประชาชนผู้มาติดต่อราชการเกิดความติดขัด หรือยื่นเอกสารให้หน่วยงานหนึ่งกับอีกหน่วยงานหนึ่ง ทั้งที่เป็นเอกสารที่ทางราชการออกให้ทั้งสิ้น จึงจำเป็นต้องมีกฎหมายเพื่อยกระดับการทำงานของภาครัฐไปสู่รัฐบาลดิจิทัล  

พร้อมกำหนดให้มีศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลแห่งชาติเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานของรัฐ กำหนดบทเฉพาะกาลให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 5 ปีนับตั้งแต่ พ.ร.บ. มีผลบังคับใช้ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบประมาณ ระยะ 5 ปี จำนวน 30,000 ล้านบาท

ที่ประชุมยังเห็นชอบมาตรการอำนวยความสะดวกและลดภาระให้กับประชาชนกรณีขอเอกสารทางราชการหรือติดต่อกับหน่วยงานราชการ ภายในวันที่ 5 พ.ย.2561 ให้หน่วยงานของรัฐที่มีกฎหมาย กฎระเบียบข้อบังคับให้ประชาชนยื่นสำเนาเอกสาร เชื่อมข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยไม่จำเป็นต้องลงนามในเอกสารหรือทำ MOU เมื่อประชาชนมาติดต่อขอรับบริการ ให้เจ้าหน้าที่พิมพ์เอกสารหลักฐานที่ต้องใช้จากระบบเชื่อมโยง และลงนามรับรองโดยเจ้าหน้าที่โดยประชาชนไม่ต้องนำสำเนามา และไม่ต้องลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง กรณีการให้บริการที่เป็นตัวเงินให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ ดำเนินการผ่านระบบรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ภายในวันที่ 5 พ.ย.นี้ โดยการปฏิบัติดังกล่าวให้มีผลเป็นตัวชี้วัดถึงประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ของหัวหน้าหน่วยงานทุกระดับ และให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร) เปิดช่องทางสื่อสารผ่านสังคมออนไลน์ เพื่อรับข้อร้องเรียนจากประชาชนว่ามีหน่วยงานใดไม่ดำเนินการตามที่กำหนด และแจ้งให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดรับทราบ

ขณะที่ภายในปี 2562 กำหนดให้หน่วยงานที่ให้บริการประชาชน เมื่อมีประชาชนมาติดต่อและกรอกแบบฟอร์ม หน่วยงานสามารถเชื่อมโยงข้อมูลและนำข้อมูลจากในระบบของบุคคลนั้นออกมาโดยไม่ต้องกรอกข้อมูลซ้ำ รวมทั้งให้หน่วยงานพิจารณาลดรายการเอกสารสำเนา ที่ประชาชนต้องใช้ประกอบขอรับบริการ ส่วนภายในปี 2563 ให้สำนักงาน ก.พ.ร. พัฒนาศูนย์กลางแลกเปลี่ยนข้อมูลภาครัฐให้ครอบคลุม และเชื่อมโยงมากขึ้นเพื่อให้หน่วยงานภาครัฐสามารถเรียกดูเอกสารทางราชการระหว่างหน่วยงานและให้บริการประชาชนผ่านระบบออนไลน์ได้