ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 1 ตุลาคม 2561 ช่วง 19.35น.

+++กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีน แผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ทำให้มีลมตะวันออก พัดเข้ามาปกคลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังอ่อน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกน้อยในระยะนี้

+++พายุไต้ฝุ่น  กองเร็ย  (KONG-REY) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีแนวโน้มเคลื่อนเข้าใกล้เกาะไต้หวัน ประเทศจีน ในช่วงวันที่ 4-6 ตุลาคม 2561 ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วย โดยพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

+++อิทธิพลของไต้ฝุ่นจ่ามี ที่ขึ้นฝั่งที่บริเวณจังหวัดโอซากา ในภูมิภาคคันไซซึ่งอยู่ทางตะวันตกของญี่ปุ่น เมื่อคืนวันอาทิตย์ ด้วยความเร็วลมกระโชกสูงสุด 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน และได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 120 คน แต่จำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีรายงานผู้สูญหายอย่างน้อย 2 คน

+++ขณะที่ เที่ยวบินภายในประเทศ ยังคงระงับให้บริการเป็นส่วนใหญ่ โดยเจแปน แอร์ไลน์ส และออล นิปปอน แอร์เวย์ส ยังระงับให้บริการเที่ยวบินรวมกันประมาณ 230 เที่ยวบิน ในวันจันทร์นี้

+++ด้านบริการรถไฟความเร็วสูง ชินคันเซ็น ให้บริการเต็มรูปแบบแล้วในวันจันทร์ หลังระงับให้บริการทุกเส้นทางเมื่อวันอาทิตย์

+++ประชาชนในกรุงโตเกียวและจังหวัดใกล้เคียง รวมมากกว่า 3 แสน 90,000 ครัวเรือน ยังประสบปัญหากระแสไฟฟ้าถูกตัดขาด ด้านหน่วยงานที่รับผิดชอบ กำลังเร่งแก้ไข

+++ความรุนแรงจากพายุจ่ามี เกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ หลังพายุ เชบี ขึ้นฝั่งทางตะวันตกของญี่ปุ่นเมื่อต้นเดือนที่แล้ว ด้วยความรุนแรงของกระแสลมกระโชกในระดับ ซูเปอร์ไต้ฝุ่น  และเป็นพายุหมุน ซึ่งมีความเร็วลมรุนแรงที่สุดในรอบ 25 ปีที่ขึ้นฝั่งของญี่ปุ่นด้วย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 17 คน

+++เฟสบุ๊ก สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา เผยแพร่ข้อมูลการให้ความช่วยเหลืออพยพคนไทยที่ติดค้างที่เมืองปาลู เกาะสุลาเวสี จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และคลื่นสึนามิ เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2561 ว่าในวันนี้ เวลา 14.30 น. นายทรงพล สุขจันทร์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือ และกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองเดนปาซาร์ (บาหลี) ได้ไปรับนักศึกษาไทย 26 คน นักธุรกิจไทย 1 คน และพนักงานบริษัทคนไทย 3 คน รวม 30 คน ที่ติดค้างที่เมืองปาลู ที่ท่าอากาศยานเมืองมากัสซาร์ ซึ่งผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารอากาศและผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบกได้เดินทางไปประสานรับมาพร้อมกับคนอินโดนีเซีย บนเครื่องบินอพยพ C-130 ของกองทัพอากาศอินโดนีเซีย

+++นักศึกษาและคนไทยทุกคนต่างดีใจที่ได้รับความช่วยเหลือจนสามารถเดินทางออกมาจากพื้นที่ประสบภัยได้อย่างรวดเร็ว และมีกำลังใจดี ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดเตรียมรถบัส นำไปรับประทานอาหารและจัดเตรียมที่พักให้ ทั้งนี้ มีนักศึกษาไทย 2 คนที่ประสงค์พำนักต่อกับเพื่อนสนิทชาวอินโดนีเซียที่เมืองปาลู

+++เอกอัครราชทูตฯ ได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารนักศึกษาและคนไทยทั้ง 30 คน และได้สอบถามความประสงค์ของนักศึกษาและคนไทยว่า ต้องการจะพำนักที่เมืองมากัสซาร์ เดินทางไปพำนักที่กรุงจาการ์ตา หรือเดินทางกลับประเทศไทย เพื่ออำนวยความสะดวกเกี่ยวกับที่พัก/บัตรโดยสารเครื่องบิน  เอกอัครราชทูตฯ ได้ขอบคุณทางการอินโดนีเซีย ทหารอากาศอินโดนีเซีย และผู้ช่วยทูตทหาร 3 เหล่าทัพ กงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองเดนปาซาร์ และบริษัท CP อินโดนีเซีย ที่ได้ประสานร่วมมืออย่างดียิ่ง ทำให้การช่วยเหลืออพยพนักศึกษาและคนไทยในครั้งนี้สำเร็จอย่างรวดเร็ว

+++ในช่วงเย็นนี้ กระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย ประชุมกับคณะทูตต่างประเทศ ที่กรุงจาการ์ตา เพื่อแจ้งสถานการณ์ล่าสุดในพื้นที่ประสบภัย และการรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ

+++ความเสียหายล่าสุดจากเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 7.5 บนเกาะสุลาเวสี ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น  844 ศพ และมีการจัดพิธีฝังศพในวันนี้ เอเอฟพี รายงานอ้างศรี ปูกูห์ อูตามี เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมอินโดนีเซียว่ามีนักโทษราว 1,200 คน แหกคุกหลบหนีจากเรือนจำรวม 3 แห่งบนเกาะสุลาเวสีคือ 2 แห่งในเมืองปาลูและอีก 1 แห่งในเมืองดองกาลา

+++รัฐมนตรียุติธรรมอินโดนีเซีย ระบุว่า เหตุแผ่นดินไหวรุนแรงทำให้ผนังกำแพงของเรือนจำแตกร้าว ทำให้นักโทษ ฉวยโอกาสแหกคุก หลบหนีจากเรือนจำ เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของอินโดนีเซีย อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมนักโทษกลับไปคุมขังในเรือนจำ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าโชคดีที่ก่อนเกิดเหตุแผ่นดินไหวไม่กี่วัน เจ้าหน้าที่เรือนจำได้ย้ายนักโทษคดีก่อการร้าย 5 คนออกจากเรือนจำเมืองปาลู เพื่อนำไปขังที่เรือนจำอื่น

+++ความเคลื่อนไหวทางการเมือง กรณีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอุตมะ สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และมีกระแสเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี แสดงความเห็นว่า หากจะให้ทั้ง 4 รัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งตอนนี้ งานที่ทำอยู่ จะไม่มีความต่อเนื่อง เพราะหลายๆ โครงการมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ  เช่น นายอุตตมะ ดูแลเรื่องพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นายสุวิทย์ ก็รับผิดชอบงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงด้านพาณิชย์ ก็มีการพัฒนาการค้าที่ดีขึ้น ยืนยันเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ทั้ง 4 คน ก็จะลาออกเอง และหากทำอะไรไม่ถูกต้อง ย่อมมีกฎหมายที่บังคับใช้อยู่

+++ส่วนกรณี 4 รัฐมนตรี มาขอคำปรึกษาในหลายๆด้าน นายสมคิด กล่าวว่า ใครจะเข้ามาขอคำปรึกษา ก็พร้อมให้คำปรึกษาในการดำเนินชีวิต ทุกพรรคย่อมมีแนวทางในประชาธิปไตย และมีจุดเริ่มต้นที่ดีขึ้น อยากให้ทุกพรรคการเมืองแข่งขันกันด้านนโยบาย

+++นายสมคิด ตอบคำถามที่ว่า ในส่วนตัวจะเข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ว่าปัจจุบันอายุเข้า 66 ปีแล้ว ถึงเวลาที่คนรุ่นใหม่จะเข้ามาทำงานแทน แต่เมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องทำให้ประเทศดีขึ้นไม่แสวงหาแต่ผลอำนาจเหมือนในอดีต เนื่องจากหมดยุคสมัยเช่นนั้นแล้ว

+++ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร อดีตส.ส.สระบุรี พรรคพลังประชาชน ในฐานะอนุกรรมการที่ปรึกษายุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ได้สมัครเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ เรียบร้อยแล้ว ตามคำเชิญผู้ใหญ่ในรัฐบาลที่อยากให้มาช่วยทำงาน หลังจากนี้จะทยอยนำทีมงานจ.สระบุรี เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรค  ต้องรอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) แบ่งเขตเลือกตั้งให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ถึงจะกำหนดผู้สมัครส.ส.ได้ชัดเจน 100 เปอร์เซ็นต์

+++นายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึง ความคืบหน้าในการจัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชาติไทยพัฒนาชุดปัจจุบัน ในวันพรุ่งนี้ ว่าคณะกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบัน นำโดยนายธีระ วงศ์สมุทร หัวหน้าพรรค จะนัดประชุม เวลา 13.00 น. เพื่อพิจารณาวาระการประชุมใหญ่ของพรรคในวันที่ 24 ต.ค. การประชุมจะมีการแก้ไขข้อบังคับพรรคให้สอดคล้องกับกฎหมายเลือกตั้งและรัฐธรรมนูญ หลังจากที่ร่วมประชุมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบว่ามีรายละเอียดที่ต้องนำมาปรับแก้ไขร่างข้อบังคับของพรรคบางส่วน เช่น การตั้งคณะกรรมการเพื่อคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของพรรค เป็นต้น

+++ปตท.และบางจาก ขึ้นราคาน้ำมันโซฮอล์ 40 สตางค์ต่อลิตร เว้น E85 ขึ้น 20 สตางค์ต่อลิตร คงราคาน้ำมันดีเซล มีผลเวลา 05.00 น. วันที่ 2 ต.ค.

+++หุ้นไทย ปิดตลาดบ่าย ปรับขึ้น 4.06 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,760.47 จุด มูลค่าการซื้อขาย 53,440.26 ล้านบาท

+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 27 ปี เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้า หลังจากสหรัฐฯ และแคนาดาได้บรรลุข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ฉบับปรับปรุงใหม่ ดัชนีปิดพุ่งขึ้น 125.72 จุด ปิดที่ 24,245.76 จุด

+++ข้อตกลงสหรัฐ-เม็กซิโก-แคนาดา" ( ยูเอสเอ็มซีเอ ) สำหรับใช้แทนที่ความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ ( นาฟตา ) ซึ่งใช้มาตั้งแต่ปี 2537 โดยทั้งสามประเทศเชื่อมั่นว่าความร่วมมือการค้าไตรภาคีฉบับใหม่นี้จะช่วยให้ตลาดและกลไกการค้ามีความเสรีและความเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น

+++การบรรลุข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯกับแคนาดา ยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แหล่งข่าวให้ข้อมูลว่าข้อตกลงรวมถึงการที่แคนาดา จะผ่อนคลายกำแพงภาษีผลิตภัณฑ์นมให้กับสหรัฐฯ เพิ่มสัดส่วนสินค้านมจากสหรัฐฯในตลาดแคนาดาเป็นร้อยละ 3.5

+++ขณะที่ รัฐบาลสหรัฐฯ ตกลงจะผ่อนคลายความเข้มงวดด้านกำแพงภาษีในอุตสาหกรรมยานยนต์และผลิตภัณฑ์เหล็กจากแคนาดา

+++ตลาดหุ้นจีน และ ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดทำการวันนี้  เนื่องในวันชาติ

+++นายพิทักษ์ อุ่นซ้อน ผู้อำนวยการสวนสัตว์ดุสิต องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยแผนการเคลื่อนย้ายสัตว์หรือการจับบังคับสัตว์ จำนวน1,088 ตัว179 ชนิด ว่า เริ่มวันนี้ เป็นลอตแรก ตั้งแต่เช้ามืดไปยังสวนสัตว์ขอนแก่น เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองจำนวน 3 ชนิด ประกอบด้วย เสือโคร่งขาว เพศเมีย 1ตัว,ค่างหงอกตะนาวศรี เพศเมีย 2 ตัว  , นาก เพศผู้ 2 ตัว เพศเมีย 4 ตัว ซึ่งออกเดินทางจากสวนสัตว์ดุสิตช่วง 08.00 น. คาดว่าจะถึงสวนสัตว์ขอนแก่น ในช่วงเย็นวันนี้   

+++สำหรับลอตที่2จะเคลื่อนย้ายอีกครั้งระหว่างวันที่ 5-6 ต.ค.นี้ไปยังสวนสัตว์นครราชสีมา ประเภทสัตว์เลื้อยคลาน จำพวก งูเห่า งูสิง งูหลาม อนาคอนด้า เต่าจมูกหมู เต่าคอยาว เต่าปาปัวกินี ส่วนสัตว์ป่าคุ้มครองที่เหลือ จะทยอยเคลื่อนย้ายตามลำดับ ไปยังสวนสัตว์ทั้ง 6 แห่งทั่วประเทศ คือสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี,สวนสัตว์เชียงใหม่ สงขลา นครราชสีมา อุบลราชธานี และขอนแก่น ขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละสวนสัตว์

CR:Royal Thai Embassy, Jakarta