จีน และ รัสเซีย ประณามสหรัฐฯ แบล็คเมล์ตั้งแต่ประเด็นการค้าถึงสงครามซีเรีย

นายหวังอี้ รมว.ต่างประเทศจีน กล่าวต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติว่า จีนจะไม่ยอมถูกหักหลังหรือยอมต่อแรงกดดัน ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน โดยจีนจะยังยึดมั่นต่อความร่วมมือระหว่างกันแบบครอบครัวใหญ่หรือพหุภาคี เพื่อประโยชน์ของทุกฝ่ายทั่วโลก นอกจากนี้ นายหวังยังใช้เวทีสภาวิเทศสัมพันธ์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นสถาบันคลังสมองในนครนิวยอร์ก ยืนกรานว่า จีนไม่มีความทะเยอทะยานจะก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจโลกแทนที่สหรัฐฯ จึงไม่ต้องตื่นตระหนก ทั้งนี้ นายหวังพยายามลดความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศมหาอำนาจว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ระบุว่า จีนขโมยเทคโนโลยีของสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนบริษัทของจีนเอง และหวังว่าข้อกล่าวหานี้จะยุติลงได้แล้ว

วันเดียวกัน นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย ได้ใช้เวทีสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ประณามสหรัฐฯ ถึงการใช้วิธีแบล็คเมล์หรือหักหลังทางการเมือง แรงกดดันทางเศรษฐกิจ และกำลังป้องกันประเทศมหาอำนาจเกิดใหม่ โดยประณาม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ไม่ได้ออกชื่อว่า ดำเนินวิธีการต่างๆ แต่เพียงฝ่ายเดียว เพื่อสนองความต้องการของตน ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนตกต่ำลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา อันเนื่องจากประเด็นการค้า เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย ซึ่งตกต่ำและตึงเครียดจากกรณีสงครามซีเรีย ซึ่งรัสเซียให้การสนับสนุนกองกำลังของประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอะซัด ผู้นำซีเรีย

ทีมต่างประเทศ

CR:AFP