*สรุปข่าว19.35น.*

+++วันพรุ่งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการทหารบก มีกำหนดการส่งมอบตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก พร้อมมอบธงประจำตำแหน่งให้กับผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ที่กองบัญชาการกองทัพบก ขณะที่วันนี้  พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางไปที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า หรือโรงเรียนนายร้อย จปร. จังหวัดนครนายก ถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  เนื่องในพิธีอำลาชีวิตทหาร ของนายทหารชั้นนายพล ซึ่งมีนายทหารระดับสูง ที่ครบกำหนดเกษียณอายุราชการในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ จำนวน 204 นาย ลาออกก่อนครบกำหนด 58 นาย รวมทั้งสิ้น 262 นาย ซึ่งในจำนวนนี้ มี พลเอกประยุทธ์ พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ และพลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รวมอยู่ด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ภูมิใจการทำงาน 38 ปีของการรับราชการทหารและการพัฒนากองทัพและสิ่งที่มุ่งหวังตลอด 4 ปีในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ส่งต่อสิ่งดี ๆ ให้รุ่นน้องไปทำต่อ

+++พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่นายเอกภพ เหลือรา หรือตั้ง อาชีวะ หลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศกัมพูชาและยื่นเรื่องขอลี้ภัยโดยมีเจ้าหน้าที่ของข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) เป็นผู้ดูแลภายหลังถูกหมายจับในข้อหาหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 รวมถึงถูกศาลทหารอนุมัติออกหมายจับเนื่องจากไม่ยอมเข้ารายงานตัวตามคำประกาศของคสช.ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้สั่งการอะไรในเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะเห็นว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังดำเนินการอยู่ในทุกคดีที่ผู้ต้องหามีหมายจับ รวมถึงพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร. ยืนยันว่าจะดำเนินการสานต่อหมดทุกคดี และทุกช่องทาง

+++ สำหรับผู้ต้องหาที่มีหมายจับ จะมีการดำเนินการ 2 ช่องทาง คือช่องทางแรกถ้าไม่มีข้อตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดนก็จะใช้ช่องทางของกระทรวงการต่างประเทศในการขอความร่วมมือ ส่วนช่องทางที่สองถ้ามีข้อตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างสองประเทศก็จะใช้ช่องทางทางกฎหมายในการดำเนินการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เป็นผู้ดำเนินการ ทั้งนี้ทราบว่าที่ประเทศกัมพูชาไม่มีข้อตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดนร่วมกับไทย ดังนั้นกรณีของนายเอภพ จึงจำเป็นต้องใช้ช่องทางทางกระทรวงการต่างประเทศในการดำเนินการ

+++คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล  เตรียมเปิดเผยการแถลงรายละเอียด ครั้งแรกของประเทศไทย เรื่องการผลิตแอนติบอดีรักษาโรคไข้เลือดออกอีโบลาสำเร็จ  ในวันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2557 เวลา 10.00 น. ที่โรงพยาบาลศิริราช ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เป็นประธานการแถลงข่าวร่วมกับ รศ.ดร.นพ.ภัทรชัย กีรติสิน หัวหน้าภาควิชาจุลชีววิทยา ศ.เกียรติคุณ ดร.วันเพ็ญ ชัยคำภา ภาควิชาปรสิตวิทยา เป็นต้น  คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล มีพันธกิจหลักในด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อการรักษาโรคมาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในผลงานล่าสุด ส่งผลให้สามารถวินิจฉัยและรักษาชนิดครบวงจร คือการผลิตแอนติบอดีรักษาโรคโรคไข้เลือดออกอีโบลาสำเร็จ โดยที่สถานการณ์การระบาดของโรคในปัจจุบัน มีความรุนแรงและมีแนวโน้มที่สูงขึ้น อีกทั้งยังไม่มีวัคซีนป้องกัน และยาเฉพาะในการรักษา

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ 1,585.79 จุด ลดลง 14.37 จุด มูลค่าซื้อขาย รวม 60,926.86 ล้านบาท

+++นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน ระบุว่า คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ซึ่งมี นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน เป็นประธาน จะนัดประชุมในวันอังคารนี้ เวลา 13.30 น. คาดจะหารือถึงการปรับโครงสร้างราคาพลังงานให้มีความเหมาะสม โดยเฉพาะราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) และก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ทั้งนี้ ในส่วนการปรับราคาแอลพีจีภาคขนส่ง คงจะไม่มีการปรับขึ้นเท่ากับราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนโดยทันที

+++กรณีที่มีการแชร์ภาพของผู้ได้รับบาดเจ็บ จากการถูกน้ำตาเทียนหยดใส่จนเป็นแผลพุพอง รศ.ดร.ฤๅเดช เกิดวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (มร.สส.) มอบให้คณบดีคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วและเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้ง 2 ฝ่ายมาสอบถามข้อเท็จจริง  พบว่า มีรุ่นพี่จำนวนหนึ่งจัดกิจกรรมรับน้อง และได้ใช้น้ำตาเทียนหยดใส่แขนรุ่นน้องจริง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย ยืนยันจะดำเนินการสอบสวนให้ถึงที่สุด และจะทำหนังสือชี้แจงรายละเอียดของเรื่องที่เกิดขึ้นไปยังสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)ต่อไป

+++สถานการณ์ที่เกาะฮ่องกง ต้องติดตามต่อเนื่อง กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง ที่ประกอบด้วยแกนนำหลักอย่างคณะนักศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ พร้อมด้วยกลุ่มอ็อกคิวพายเซ็นทรัล จำนวนรวมนับหมื่นคน ยังคงปักหลักชุมนุมตามท้องถนนสายต่างๆ ตลอดจนมีการปิดล้อมย่านศูนย์กลางทางธุรกิจของฮ่องกง รวมถึงสถานที่ทำการของรัฐบาลฮ่องกง ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันอาทิตย์จนถึงวันจันทร์ ตามเวลาท้องถิ่น

+++ทางการฮ่องกง มีคำสั่งให้ตำรวจปราบจลาจล ถอนกำลังออกไปจากสถานที่ชุมนุม ส่งผลให้เหตุการณ์ความรุนแรงจากการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงสงบลง มีผู้ถูกจับไปรวมเกือบ 200 คนด้วยกัน

+++สถานประกอบการต่างๆ รวมถึงธนาคารทั้ง 17 แห่ง 29 สาขา และโรงเรียนหลายแห่ง ต้องปิดทำการ เนื่องจากถูกกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงปิดล้อม เช่นเดียวกับ ภาคการขนส่งก็ไม่สามารถให้บริการได้ จนสร้างความโกลาหลให้กับชาวฮ่องกง  ส่งผลกระทบต่อการซื้อขายตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ดัชนีฮั่งเส็ง  ร่วงลงไปถึง 449.20 จุด ปิดที่ 23,229.21 จุด เช่นเดียวกับสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง อ่อนค่าลงเป็นประวัติการณ์เมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยอ่อนค่าลงคิดเป็นร้อยละ 0.1 ที่ 85.65 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งถือเป็นการอ่อนค่าต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย.2553

+++เรืออากาศโทสุรพล อิศรางกูร ณ อยุธยา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วันนี้ สำนักงานการบินไทย ณ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน มีความจำเป็นต้องปิดสำนักงานก่อนเวลา คือในเวลา 16.00น. (เวลาท้องถิ่น) เนื่องจากมีการชุมนุม อย่างไรก็ตาม สำนักงานการบินไทยฮ่องกง ยังคงให้บริการตามปกติ การบินไทยยังคงให้บริการในเส้นทางไป - กลับ ระหว่าง กรุงเทพฯ - ฮ่องกง ตามปกติ โดยทำการบิน 5เที่ยวบินต่อวัน ทั้งนี้ สำนักงานการบินไทยฮ่องกง จะปิดทำการในวันที่ 1 - 2 ตุลาคม 2557 เนื่องจากเป็นวันชาติ ของสาธารณรัฐประชาชนจีน

+++ขณะที่ สถานการณ์ในจีนแผ่นดินใหญ่ ปรากฏว่า ได้มีคำสั่งปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์สังคมออนไลน์ต่างๆ รวมถึงอินสตาแกรม เพื่อมิให้เป็นช่องทางเผยแพร่ข่าวสารและรูปภาพของการชุมนุมประท้วงที่ฮ่องกง เพราะเกรงว่า การชุมนุมประท้วงเรียกร้องทางการเมืองจะลุกลามเข้าสู่จีนแผ่นดินใหญ่

+++การค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยภูเขาไฟ ออนตาเกะ ทางตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น ระเบิดครั้งใหญ่ พ่นเถ้าถ่านดำขึ้นสู่ท้องฟ้า ตั้งแต่เมื่อวันเสาร์. ทีมกู้ภัยพบร่างนักปีนเขาเพิ่มอีก 5 ศพ ทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 36 ศพแล้ว และมีผู้บาดเจ็บ 63 คน ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เริ่มใช้เฮลิคอปเตอร์นำศพผู้เสียชีวิตลงมาจากยอดเขา และยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด วันนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัย ตำรวจ และทหารกองกำลังป้องกันตนเอง ถึงมากกว่า 1,100 ราย ต้องหยุดลงชั่วคราวเมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ เนื่องจากมีก๊าซพิษออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟ    

+++ผลการแข่งขันเทนนิสประเภทหญิงคู่ใน กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 17  หรือ อินชอน 2014 ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ แทมมี่ แทมมารีน ธนสุกาญจน์ และ ลัก ลักษิกา คำขำ  สามารถเอาชนะคู่แข่งจากไตหวันไปได้ 2 ต่อ 1 เกม  5-7 , 6-3 และ 1-0(10-3) คว้าเหรียญทองเหรียญที่ 6 ให้ทัพนักกีฬาไทยได้สำเร็จ