สระพญานาคในพระธาตุบังพวน ศูนย์รวมจิตใจชาวหนองคาย แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ

28 กันยายน 2561, 20:21น.


เส้นทางท่องเที่ยวแอ่งวิถีชีวิตลุ่มแม่น้ำโขง ที่จังหวัดหนองคาย โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ในวันแรกยังคงเยี่ยมชมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จังหวัดหนองคาย  โดยมาที่วัดพระธาตุบุ บ้านโคกป่า ฝาง อ.เมือง จ.หนองคาย พระธาตุโพนจิกเวียงงัว  ซึ่งเป็นหนึ่งใน  สถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่มาพร้อมกันจำนวน 45 ชิ้น ตามตำนานอุรังคธาตุ หรือวรรณกรรมตำนานพระธาตุ เป็นการเดินทางของพระพุทธองค์เมื่อครั้งที่เสด็จยังชมพูทวีป เพื่อมาประทับรอยพระบาทไว้หลายแห่งในดินแดนสองฝั่งแม่น้ำโขง โดยแบ่งพระบรมสารีริกธาตุไป ประดิษฐาน 4 จุด ได้แก่ พระธาตุบังพวน  29 องค์ พระธาตุโดนจิกเวียงงัว  3 องค์  พระธาตุหล้าหน่อ 9 องค์ และพระธาตุหอผ้าหอแพ ซึ่งอยู่ฝั่งลาว 4 องค์  สำหรับวัดมีพระธาตุโพนจิกเวียงงัว เป็นพระธาตุที่เชื่อกันว่าบรรจุพระธาตุเขี้ยวฝาง (พระทันตธาตุ) ประดิษฐานอยู่ มีลักษณะทางศิลปกรรมเป็นเจดีย์ทรงระฆังสูง ก่ออิฐด้วยดินและยางไม้ มีฐานประทักษิณเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดกว้าง 17.50 เมตร ยาว 17.50 เมตร ภายในฐานประทักษิณถมดินอัดแน่น มุมทั้งสี่ทิศมีฐานอิฐรูปทรงสี่เหลี่ยมสันนิษฐานว่าเป็นพระธาตุจำลองประจำมุม 4 องค์ ส่วนเรือนธาตุเป็นองค์ระฆังทรงกลมเรียวยาวอยู่ด้านบน ถัดขึ้นไปเป็นชั้นบัวลูกแก้วในผังกลมซ้อนกัน 4 ชิ้น ส่วนยอดเป็นปลีทรงแหลมสูง





หลังจากนั้น เดินทางต่อไปยังวัดพระธาตุบังพวน เป็นที่เคารพสักการะของชาวหนองคายมาช้านานตัวองค์พระธาตุเดิมเป็นเจดีย์สร้างด้วยอิฐเผา มีรูปทรงแบบสถาปัตยกรรมท้องถิ่น ลักษณะเจดีย์ เป็นรูปสถูปแบบอินเดียรุ่นเดียวกับองค์พระปฐมเจดีย์ ปัจจุบันบูรณะขึ้นใหม่ หลังจากที่องค์เดิมได้พังทลายลงเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2513 เนื่องจากฐานทรุด พระธาตุองค์ปัจจุบันมีฐานทักษิณ 5 ชั้น กว้าง 17.20 เมตร สูงถึงยอดฉัตร 34.25 เมตร รูปปรางค์สี่เหลี่ยมต่อกันเป็นบัวปากระฆังชั้นที่ 6 เป็นรูประฆังคว่ำ ชั้นที่ 7 เป็นรูปดาวปลี และเหนือชั้นไปเป็นที่ตั้งฉัตรและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ นอกจากนี้ ภายในบริเวณวัดยังมีสถานที่สำคัญคือ





ในวัดพระธาตุบังพวนนอกจากจะมีพระธาตุบังพวนเป็นศูนย์รวมจิตใจและเป็นเจดีย์ประธานแล้ว ยังมีสิ่งน่าสนใจอีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สถูปเจดีย์เก่าแก่ พระพุทธรูปโบราณศิลปะล้านช้างที่น่าสนใจยิ่ง โบสถ์โบราณที่เหลือเพียงซากอิฐก่อระดับเอว รวมถึงสถานที่เกี่ยวกับพญานาคอีกแห่งหนึ่ง คือ "สระมุจลินท์" หรือ "สระพญานาค" ที่มีตำนานเล่าว่า หลังอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าบรรจุไว้ในองค์พระธาตุ ได้เกิดปรากฏการณ์ประหลาด มีสายน้ำพวยพุ่งออกมาจากพื้นดินซึ่งเชื่อว่านี่คือปากปล่องภูพญานาคที่เฝ้าปกปักรักษาพระธาตุบังพวน จึงมีการขุดเป็นสระน้ำขึ้นตามมาในภายหลังพิพิธภัณฑ์พระธาตุบังพวน ซึ่งเป็นห้องเล็กๆ อยู่ใกล้กับองค์พระธาตุ ซึ่งภายในจะเก็บซากเศษหิน ใบเสมา ศิลาจารึก ตลอดจนโบราณวัตถุของพระธาตุองค์เก่า รวมทั้งประวัติขององค์พระธาตุ





 



สำหรับสระพญานาค อยู่ในบริเวณใกล้ๆ องค์พระธาตุ ซึ่งในสมัยโบราณเมื่อมีการแต่งตั้งผู้ใดเป็นเจ้าเมือง ก็จะนำน้ำจากสระนี้ไปสรงเพื่อเป็นสิริมงคล ในสมัยต่อมาสระพญานาคก็ทรุดโทรมลงตามกาลเวลา จนกระทั่งชาวบ้านและประชาชนที่มีจิตศรัทธาได้ร่วมกันบริจาคและทำการบูรณะสระพญานาคเพื่อใช้น้ำในสระนี้นำไปประกอบพิธีมงคลต่างๆ เพื่อความเป็นสิริมงคลทุกปีชาวจังหวัดหนองคายจะจัดงานนมัสการพระธาตุบังพวนขึ้นในเดือนยี่ ขึ้น 11 ค่ำ

ข่าวทั้งหมด

X