พิธีลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างฐานรากและเสาตอม่อ ในโครงข่ายทางเชื่อมระหว่างทางยกระดับอุตราภิมุข และทางพิเศษสายศรีรัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร นายสุรงค์ บูลกุล ประธานกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) เปิดเผยว่า การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการให้บริหารการอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ประชาชนผู้ใช้ทางพิเศษ การแก้ไขปัญหาจราจร ด้วยการเพิ่มโครงข่ายของระบบทางพิเศษ
สำหรับพิธีลงนามในวันนี้ เป็นการลงนามในสัญญาจ้างก่อสร้างฐานรากและเสาตอม่อ จำนวน 8 ฐาน และสัญญาจ้างผู้ให้บริการควบคุมงานก่อสร้างฐานรากและเสาตอม่อดังกล่าว รวมถึงงานโครงสร้างส่วนบนของโครงข่ายทางเชื่อมระหว่างทางยกระดับอุตราภิมุขและทางพิเศษสายศรีรัช - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย กับบริษัท เสริมสงวนก่อสร้าง จำกัด และบริษัท เอพซิลอน จำกัด ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่ได้เซ็นสัญญาในการเชื่อมต่อเส้นทางวงแหวนตะวันออกไปวงแหวนตะวันตก
โครงการนี้มีความสำคัญ เพราะก่อสร้างอยู่ในพื้นที่บริเวณบางซื่อ จะต้องร่วมมือกับการรถไฟแห่งประเทศไทยและกระทรวงคมนาคม เนื่องจาก ต้องก่อสร้างอยู่ในพื้นที่รถไฟความเร็วสูงศูนย์บางซื่อ และมีเวลาการก่อสร้างที่จำกัด โครงการเสาตอม่อ 8 ต้นของโครงข่ายจะเป็นพื้นฐานแรกที่ทำให้ระบบเชื่อมโยงคมนาคมสมบูรณ์แบบได้ จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ตุลาคมนี้ คาดว่า จะใช้เวลาประมาณ14 เดือน หากก่อสร้างแล้วเสร็จประชาชนสามารถเดินทางจากถนนบรมราชชนนีขึ้นทางพิเศษศรีรัช วงแหวนรอบนอก เข้าทางยกระดับอุตราภิมุข(ดอนเมืองโทลล์เวย์)และลงท่าอากาศยานดอนเมืองได้ทันที จะช่วยเชื่อมโยงการเดินทางในเขตเมืองให้มีประสิทธิภาพ ประชาชนได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้นและช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรในบริเวณดังกล่าว เชื่อว่า ผลการลงนามในสัญญาวันนี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาระบบการขนส่งและระบบโลจิสติกส์อย่างบูรณาการ รวมทั้งเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศและช่วยพัฒนาการเชื่อมโยงโครงข่ายทางพิเศษให้ดีขึ้น โดยสะพานจะมีความสูงประมาณ 40 เมตร ค่อนข้างสูงและละเอียดอ่อนทางด้านวิศวกรรม ซึ่งการก่อสร้างจะไม่กระทบกับถนนพื้นราบ
ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ