การชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการพรรคการเมือง เริ่มต้นขึ้นแล้ว นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวบรรยายต่อพรรคการเมืองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสิ้น 500 คน แบ่งเป็นส.ส.แบบแบ่งเขต 350 คน และแบบบัญชีรายชื่อ 150 คน โดยจะใช้วิธีการกาบัตรเลือกตั้งใบเดียวที่จะส่งผลถึง 3 อย่าง คือ ส่งผลในการเลือกส.ส.เขต, การเลือกส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ(ปาร์ตี้ลิสต์), และยังส่งผลถึงการเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นสิ่งท้าทายและเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะหนึ่งเสียงของทุกคนสามารถส่งผลถึงการเลือกนายกฯได้
สำหรับปัจจุบันมีกลุ่มพรรคการเมืองรอการรับรองจากกกต.ให้เป็นพรรคการเมืองทั้งสิ้น 119 กลุ่มพรรคการเมือง โดยขณะนี้กกต.ได้รับรองสถานะพรรคการเมืองใหม่แล้ว 6 พรรค บ่ายนี้จะพิจารณาให้การรับรองอีก 2 พรรค รวมแล้วขณะนี้ประเทศไทยมีพรรคการเมืองที่ได้รับการรับรองจากกกต.ทั้งสิ้น 74 พรรค
ประธานกกต. ชี้แจงวิธีการดำเนินงานของพรรคการเมืองว่าจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆให้ถูกต้องเพื่อจะได้สถานะการเป็นพรรคการเมือง พร้อมระบุว่า พรรคการเมืองจะต้องแก้ไขข้อบังคับพรรคให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้ ส่วนพรรคการเมืองใหม่ จะต้องมีอุดมการณ์และดำเนินกิจกรรมให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดด้วย อีกสิ่งที่สำคัญคือ การส่งสมาชิกพรรคการเมืองเข้าสมัครลงเลือกตั้งส.ส. โดยขอให้คณะกรรมการสรรหาของพรรคพิจารณาถึงความเท่าเทียมในการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งและคณะกรรมการสรรหาจะต้องส่งรายชื่อผู้ลงสมัครเลือกตั้งให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาเห็นชอบด้วย ทั้งนี้ กกต.ได้ออกระเบียบการแบ่งเขตการเลือกตั้งและได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
ประธานกกต. หวังว่าการประชุมหารือกันในวันนี้จะช่วยทำให้พรรคการเมืองเข้าใจและได้หารือในประเด็นที่ยังติดใจเกี่ยวกับขั้นตอนต่างๆของการเลือกตั้งด้วย โดยกกต.ยินดีที่จะตอบข้อสงสัยทุกคำถามต่อพรรคการเมือง
ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร