การประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่มีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานบ่ายนี้ใช้เวลาในการประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง โดยวาระการประชุมวันนี้ได้พิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับนายพลตำรวจ ตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และตำแหน่งเทียบเท่า จนถึงระดับผู้บังคับการ วาระประจำปี 2561 แทนตำแหน่งผู้เกษียณอายุราชการและหมุนเวียนเพื่อความเหมาะสม โดยภายหลังการประชุม พลเอกประวิตร ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
ขณะที่ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่าการแต่งตั้งครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีทั้งหมด 255 ตำแหน่ง ทั้งสลับตำแหน่งและเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้น ในที่ประชุม ได้แสดงความคิดเห็นกันหลายคน และยอมรับว่าได้มีการยกเว้นคนที่มีคุณสมบัติไม่ครบตามหลักเกณฑ์ให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้นได้ มีการคละเคล้าเฉลี่ยตำแหน่งหน้าที่ตามความเหมาะสม แต่ยืนยันว่า นักเรียนนายร้อยรุ่น 35-36 ถือว่าเป็นรุ่นที่อาวุโสของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ส่วนผู้บัญชาการแต่ละพื้นที่ก็มีการสลับสับเปลี่ยนโดยบุคคลที่จะขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการไม่จำเป็นต้องเคยปฎิบัติงานในหน่วยงานนั้น ซึ่งคนที่เป็นพลตำรวจโท ตามนโยบายสามารถดำรงตำแหน่งได้ เนื่องจากเกี่ยวกับการบริหาร และความรู้ความสามารถ ที่จะนำไปใช้ในการบริหารงานได้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า ในที่ประชุมได้มีการนำรายชื่อพลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ไปพิจารณาในตำแหน่งที่สูงขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมามีการทำผลงานอย่างต่อเนื่อง แต่จะทราบรายละเอียดถึงชื่อก็ต่อเมื่อมีการพิจารณาโปรดเกล้าฯ มาเท่านั้น
ขณะที่ พันตำรวจโทสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการสันติบาล เดินทางไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อยื่นหนังสือถึงพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานกรรมการข้าราชการตำรวจ เพื่อให้ถอดถอนรายชื่อ พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ ออกจากบัญชีรายชื่อวาระการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจประจำปี 2561 ของการประชุมคณะกรรมการตำรวจ ครั้งที่ 9 /2561 เนื่องจากเชื่อว่ามีความประพฤติไม่เหมาะสม และเข้าข่ายความผิดร้ายแรง
ผู้สื่อข่าว:ปภาดา พูลสุข