ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 26 กันยายน 2561 ช่วง19.35น.

26 กันยายน 2561, 20:29น.


+++สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รายงานว่า มีพรรคการเมืองและกลุ่มการเมือง 41 กลุ่ม จากทั้งหมด 109 กลุ่ม ตอบรับเข้าร่วมรับฟังการชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการแก่พรรคการเมืองและผู้ขอแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมือง ในวันศุกร์ที่ 28 กันยายน นี้ 



+++พรรคประชาธิปัตย์ ส่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และนายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรค



+++ พรรคเพื่อไทย ส่งพล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค และนายชูศักดิ์ ศิรินิล



+++พรรคชาติไทยพัฒนา ส่งนายวีระ วงศ์สมุทร หัวหน้าพรรค นายวราวุธ ศิลปอาชา และนายนิกร จำนง



+++พรรคภูมิใจไทย ส่งนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรค นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรค และนายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรค 



+++พรรคพลังชล ส่งนายสุระ เตชะทัต โฆษกพรรค



+++ พรรคเพื่อธรรม ส่งพล.ต.ต.จรัญ ชิตะปัญญา รักษาการหัวหน้าพรรค 



+++พรรคทางเลือกใหม่ ส่งนายราเชน ตระกูลเวียง หัวหน้าพรรค 



+++พรรคประชาภิวัฒน์ ส่งพ.ต.ท.ณฐภัทร คูหาทอง รองเลขาธิการพรรค 



+++การประชุมจะเริ่ม เวลา 09.00 น. โดยนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เป็นประธานการประชุม และ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. และนายทะเบียนพรรคการเมือง จะชี้แจงในหัวข้อ พรรคการเมืองไทย มีอะไรที่ต้องปรับตัวตามกฎหมายใหม่  นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการกกต. จะชี้แจงในหัวข้อ การดำเนินการของพรรคการเมือง ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นอกจากนี้ จะมีการตอบข้อหารือในเรื่องการเตรียมการและการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส. การดำเนินการกิจการของพรรคการเมือง ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และการเงินของพรรคการเมือง และค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งส.ส.



+++ความเคลื่อนไหวที่พรรคเพื่อไทย นายนคร มาฉิม อดีต ส.ส. พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เดินทางมาที่พรรคเพื่อไทย (พท.)  เพื่อขอรายละเอียดการสมัครสมาชิกพรรค พร้อมเปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมเพื่อนอดีต ส.ส. ทั้งนี้ จะมีอดีต ส.ส. พรรคปชป. ย้ายมาด้วยหรือไม่ ขอให้รอการตอบรับจากทุกฝ่ายก่อน เพราะคุยกันอยู่กว่า 10 คน และจะตกลงวันเวลากันอีกครั้ง และจะยืนยันอีกครั้ง วันนี้มาขอรายละเอียดก่อน ในส่วนตัวตั้งใจไว้จะลงเขตเดิม ในจ.พิษณุโลก



+++พรรคปชป.ประชุมใหญ่วิสามัญ ประจำปี 2561 ครั้งที่ 1 ซึ่งมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม มีกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบัน อดีตกรรมการบริหารพรรค อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรี อดีตส.ส. อดีตประธานสาขาพรรค และสมาชิกพรรคที่เป็นผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง นายอภิสิทธิ์ แจ้งที่ประชุมว่า รายชื่อผู้ร่วมประชุมได้ลงทะเบียนกับพรรคผ่านระบบออนไลน์ จะสามารถเป็นหลักฐานยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เลย สำหรับเรื่องการมีสมาชิกตามที่กฎหมายว่าด้วยพรรคการเมืองกำหนด และการมีทุนประเดิมพรรค ได้ทำเรียบร้อยแล้ว  ตอนนี้เหลือเพียงแก้ไขข้อบังคับพรรค การเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรค การตั้งสาขาพรรค การรับสมัครสมาชิก การตั้งสาขาพรรค การมีคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง



+++ทั้งนี้  เมื่อแก้ไขข้อบังคับและระเบียบที่เกี่ยวข้องแล้ว จะสามารถรับสมัครสมาชิกและตั้งสาขาพรรค ส่วนการเลือกกรรมการบริหารและการมีคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครส.ส. จะทำโดยที่ประชุมใหญ่ของพรรค ซึ่งตนมีนโยบายให้มีการหยั่งเสียงเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ซึ่งการประชุมใหญ่ครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นหลังจากการหยั่งเสียงเสร็จแล้ว จากนั้นจะสามารถเลือกกรรมการบริหารพรรคและกรรมการสรรหาผู้สมัครส.ส.



+++นายอภิสิทธิ์  เปิดเผยหลังการประชุมนาน 5 ชั่วโมง ว่าที่ประชุมพรรคเห็นชอบให้คณะกรรมการบริหารพรรค เขียนกฎระเบียบการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค และ หลังจากเสร็จภารกิจการเดินทางกลับจากต่างประเทศจะยุติการทำหน้าที่ ทั้งนี้ จะมีการหารือสามฝ่าย คือ ฝ่ายนายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นหนึ่งในผู้ประกาศชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคฯรวมอยู่ด้วย เพื่อให้การหยั่งเสียง เป็นประชาธิปไตย



+++ส่วนช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เป็นประธานในการแถลงผลงาน 4 ปี สนช. ใน 4 ด้าน ตามลำดับ ได้แก่  1.ผลงานด้านนิติบัญญัติ2.ผลงานด้านการดูแลประชาชนในฐานะที่ สนช.ทำหน้าที่แทน ส.ส. ส.ว. 3.ผลงานด้านการต่างประเทศ และ 4. ผลงานด้านการส่งเสริมและการเผยแพร่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข



+++กรณีเจดีย์วัดพระยาทำฯ เจดีย์โบราณอายุหลายร้อยปี ถนนอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย ถล่มลงมาขณะคนงานเข้าไปทำงานในโครงการบูรณะหอระฆัง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 11 คน เสียชีวิต 1 ศพ ร้อยตำรวจเอกเดชศวัตศดิศชนม์ อุฒมนตรี รองสารวัตรสอบสวน สน.บางกอกน้อย เปิดเผยหลังประชุมชุดสอบสวนว่า เตรียมเรียกพยานมาให้ปากคำไม่ต่ำกว่า 10 ปาก เช่น พยานที่เห็นเหตุการณ์ วิศวกร ผู้ว่าจ้าง ผู้ประมูลงาน เจ้าหน้าที่กรมศิลป์ คนงานก่อสร้าง ในประเด็นต่างๆ ทั้งพฤติกรรมการดำเนินการ เข้าข่ายประมาทหรือไม่, สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ มาจากบุคคล หรือเครื่องมือ , มีวิศวกรดูแลตอนยกฐานรากหรือไม่ ซึ่งต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนก่อนจึงจะแจ้งข้อกล่าวหา รวมทั้งการจ่ายค่าชดเชยแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิต



+++นายวิชิต อรุณมานะกุล วิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ กรมโยธาธิการและผังเมือง ระบุว่า การตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบการเอียง และคาดว่าจะไม่เสียหายไปมากกว่านี้ และต้องประเมินภาพรวมหลังจากนี้ว่า การยกตัวของโบราณสถานควรทำอย่างไร รวมถึงไปดูรายละเอียดของกฏหมาย ซึ่งกรมศิลปากร เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ ตามขั้นตอนปกติ 



+++นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การและรักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ในวันที่1 ต.ค. รถตู้โดยสารสาธารณะที่มีอายุการใช้งานครบ10ปีวันที่30ก.ย. จะหยุดวิ่งให้บริการซึ่งจะส่งผลกระทบในการเดินทางของผู้ใช้บริการขสมก.จึงจัดรถโดยสารปรับอากาศ(รถเมล์แอร์)วิ่งให้บริการจำนวน 6เส้นทาง เพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยให้ผู้ใช้บริการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่เคยใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะดังกล่าว



+++นายประยูร กล่าวว่าหากเส้นทางใดมีประชาชนนิยมใช้บริการเป็นจำนวนมาก ขสมก.จะพิจารณาเพิ่มจำนวนรถโดยสารให้เพียงพอต่อความต้องการใช้บริการต่อไป โดยจะจัดเก็บค่าโดยสารตามอัตราเดิมที่ผู้ใช้บริการได้ชำระในการเดินทางด้วยรถตู้โดยสารปรับอากาศ ประกอบด้วย1.มีนบุรี-จตุจักร จัดรถเมล์แอร์วิ่งให้บริการ10คันค่าโดยสาร 25 บาท 2.มีนบุรี-ปากเกร็ด จัดรถเมล์แอร์ให้บริการ10คันค่าโดยสาร 25 บาท 3.มีนบุรี-ห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต จัดรถเมล์แอร์ วิ่งให้บริการ 10คันค่าโดยสาร 25 บาท 4.อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-ห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต จัดรถเมล์แอร์ให้บริการ 20คันค่าโดยสาร 35 บาท 5.อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต)จัดรถเมล์แอร์ให้บริการ10คันค่าโดยสาร 35 บาทและ6.อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-หมู่บ้านเมืองทองธานี (ทางด่วน) จัดรถเมล์แอร์ให้บริการ 5คัน ค่าโดยสาร 30 บาท



+++นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผย ผลการส่งออกปี 2561 ว่า จากปัจจัยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมันอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ ความต้องการสินค้าไทยยังขยายตัวต่อเนื่อง ประกอบกับการลงทุนของบริษัทต่างชาติ และแนวโน้มการลงทุนต่างชาติในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ มีการขยายตัว ส่งผลให้การส่งออกของประเทศขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 8 เดือนแรกปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.0 มูลค่า 169,030 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การนำเข้าขยายตัวร้อยละ 15.9 มูลค่า 166,679 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 



+++ขณะที่ ทิศทางการส่งออกปี 2562 ยังต้องจับตาปัจจัยเสี่ยงที่อาจมีผลกระทบต่อการส่งออก ทั้งในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังมีความผันผวน ความเสี่ยงจากนโยบายการค้าและมาตรการเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะผลกระทบทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ซึ่งบางกลุ่มสินค้าที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิต อาทิ ยานยนต์ เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า อาจส่งผลให้เกิดการแข่งขันสูงขึ้นในประเทศที่ 3 



+++ในวันที่ 18 ตุลาคมนี้ กระทรวงพาณิชย์ จะประชุมทูตพาณิชย์ เพื่อประเมินสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับผลกระทบจากสถานการณ์สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ทูตพาณิชย์อยู่ระหว่างรวบรวมสรุปตัวเลขแต่ละตลาด เพื่อรายงานรองนายกรัฐมนตรี



+++ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย หรือเอดีบี ออกรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย รวมทั้งประเทศไทยปี 2561 ว่า เศรษฐกิจไทย ขยายตัวร้อยละ 4.8 ในครึ่งแรกของปี 2561 สูงกว่าที่เอดีบี คาดการณ์ไว้เดิมเมื่อเดือนเมษายน โดยแรงสนับสนุนมาจากการขยายตัวในเกณฑ์ที่ดีของการส่งออก อุปสงค์ในประเทศ และผลผลิตภาคการเกษตร



+++ความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทย คือ ความตึงเครียดสงครามการค้า ความผันผวนของระบบเศรษฐกิจการเงินโลก และเงินทุนไหลออก จากการที่แนวโน้มดอกเบี้ยโลกจะปรับขึ้นอย่างช้า ๆ แต่การที่ประเทศไทยมีพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ไทยมีสถานะดีกว่าประเทศเกิดใหม่อื่น ๆ ในการรับมือความผันผวนที่จะเกิดขึ้น 



+++การลงทุนในตลาดหลักหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดที่ 1,749.93 จุด เพิ่มขึ้น 1.94 จุด มูลค่าการซื้อขาย 48,749.68 ล้านบาท นักลงทุนรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จับตาการคาดการณ์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้และปีหน้า ขณะที่ ยังมีแรงหนุนจากกลุ่มพลังงานช่วยดันดัชนีให้ปิดบวกได้เล็กน้อย



+++ดัชนีฮั่งเส่ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 317.48 จุด ปิดที่ 27,816.87 จุด หลังหุ้นกลุ่มพลังงานได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจาก มีการคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำมันในตลาดโลกจะลดลง เนื่องจากสหรัฐฯใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน พร้อมกับกดดันให้ประเทศต่างๆระงับการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่าน

+++ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว  บวก 93.53 จุด ปิดที่ 24,033.79 จุด ดัชนีดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือนดัชนี ปิดเหนือระดับ 24,000 จุด และยังทำสถิติปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 8 เนื่องจาก นักลงทุนคาดการณ์ว่า ผลประกอบการของบริษัทญี่ปุ่นจะออกมาแข็งแกร่ง

+++บีบีซี รายงานว่า นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เตือนรัฐบาลอิหร่านว่าอิหร่าน จะต้องได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ถ้าพวกเขากระทำการต่างๆที่สร้างความเสียหายต่อผลประโยชน์แห่งชาติของสหรัฐฯ ทำร้ายพลเมืองอเมริกันหรือชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ ระบุว่า ถ้าล้ำเส้นเมื่อใด อิหร่าน ก็จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงทันที



+++นายจอห์น โบลตัน แสดงความเห็นเรื่องนี้ในที่ประชุมแห่งหนึ่งในนครนิวยอร์ก ไม่กี่ชั่วโมง หลังประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี ของอิหร่าน ขึ้นปราศรัยในที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ(ยูเอ็น)ในนครนิวยอร์ก วิจารณ์รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯว่า มีทัศนคติในแง่ลบต่ออิหร่านมาโดยตลอด กล่าวหา นายทรัมป์ ว่าใช้วิธีการทำสงครามจิตวิทยากับอิหร่าน พร้อมทั้งปฏิเสธว่าอิหร่านไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการก่อการร้าย ตามที่สหรัฐฯกล่าวหา



+++เมื่อเดือนที่แล้ว สหรัฐฯ ลงมติคว่ำบาตรอิหร่าน หลังการประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านที่สหรัฐฯ กับ 5 ชาติมหาอำนาจของโลก คือ ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร เยอรมนี รัสเซียและประเทศจีน ลงนามกับอิหร่านเมื่อปี 2558



+++บีบีซี รายงานอ้างสื่อท้องถิ่นของญี่ปุ่นว่า ตำรวจ จับกุมนางเอมิริ ซูซูกิ อายุ 49 ปี ในข้อหาทิ้งศพทารกไว้ในล็อคเกอร์หยอดเหรียญสำหรับฝากของที่สถานีรถไฟอูกุอิซูดานิ ในกรุงโตเกียว หลังจากที่เมื่อวานนี้ นางซูซูกิ เข้ามอบตัวกับตำรวจ และรับสารภาพว่าได้เก็บศพทารกในล็อคเกอร์ดังกล่าว นับตั้งแต่ทารกคลอดแล้วเสียชีวิต เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 4-5 ปีก่อน



+++นางซูซูกิ เป็นคนว่างงาน บอกกับตำรวจว่าในตอนแรก เธอรู้สึกตกใจมากเมื่อคลอดลูกออกมาแล้วเสียชีวิต และไม่รู้จะจัดการอย่างไรกับศพทารก แต่อีกใจหนึ่ง ก็ไม่อยากจะนำไปทิ้งจึงนำศพทารกไปเก็บไว้ในล็อคเกอร์ และชำระเงินค่าฝากของให้กับผู้ให้เช่าล็อคเกอร์มาตลอด มีอัตราค่าเช่าวันละ 1.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 58 บาท) หากค้างค่าเช่ารวม 8.86 ดอลลาร์(ราว 287 บาท) ผู้ให้เช่าล็อคเกอร์จะเปิดล็อคเกอร์และตรวจดูสิ่งของที่เก็บในล็อคเกอร์  ตำรวจ ระบุว่า จะสอบสวนผู้ต้องหาถึงสาเหตุการเสียชีวิตของทารกและดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย  



แฟ้มภาพ 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X