รองผบช.น.เผยสอบปากคำ อัจฉริยะ หลังยื่นหลักฐาน-พยานทำสำนวนคดีเอมี่อ่อน

หลังนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นหลักฐานและพยานปากสำคัญ 1 คน ให้ข้อมูลกับพลตำรวจโทชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กรณีมีขบวนการกุ้งมังกรที่วิ่งเต้นล้มคดีที่เอมี่ อาเมเรีย จาคอป ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ที่ทำสำนวนให้อ่อน จนศาลพิพากษายกฟ้อง นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ได้นำหลักฐานเพิ่มเติม และพาพยานที่รู้เรื่องราวและวิธีการวิ่งเต้นล้มคดีของเอมี่ อาเมเรีย มาให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ว่ามีการทำเป็นขบวนการ โดยคดีของเอมี่ อาเมเรีย มีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 13 คน มีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและพลเรือน ในนั้นมีทนายความชื่อดังรวมอยู่ด้วย

ส่วนตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยกับการขายสำนวน มีด้วยกัน 3 หน่วย ตั้งแต่ชุดจับกุมถึงชุดทำสำนวน มียศสูงสุดเป็นร้อยตำรวจเอก นอกจากนี้ ยังได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหาย ที่ทนายความคนดังที่ถูกพาดพิงได้ไปเรียกรับเงินวิ่งเต้นคดียาเสพติดอีก 5 คดี ในพื้นที่ตำรวภูธรภาค 7 เรียกเงินค่าวิ่งเต้นคดีละ 5 แสนบาท ทำสำเร็จไป 1 คดี ไม่สำเร็จ 4 คดี มี 2 คดีที่คืนเงินให้ผู้ว่าจ้าง และอีก 2 คดีที่ไม่คืนเงินให้ อยู่ระหว่างตรวจสอบหาความจริง

ส่วนคำจำกัดความ แก๊งกุ้งมังกร มาจากการที่กลุ่มขบวนการดังกล่าว นำโดยทนายความชื่อดัง ได้ไปร่วมโต๊ะรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใกล้กับวัดท่าไม้ จังหวัดสมุทรสาคร ที่มีการเจรจาให้เงินจำนวน 5 หมื่นบาท ให้กับทนายความคนดัง และในวงอาหารได้มีการสั่งกุ้งมังกรมารับประทานกันด้วย

ด้านพลตำรวจตรีสมพงษ์ ชิงดวง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ พนักงานสอบสวนของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กำลังสอบปากคำนายอัจฉริยะอยู่ หากมีหลักฐานพาดพิงถึงใคร จะต้องเรียกมาสอบปากคำทั้งหมด ไม่มีการละเว้น หากมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง จะต้องดำเนินคดี หากผิดวินัย จะต้องดำเนินคดีด้านวินัย หากมีความผิดทางอาญา จะต้องถูกแจ้งข้อกล่าวหา

ส่วนกระแสข่าวมีคำสั่งให้นายตำรวจของสน. ศาลาแดง ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือคดีดังกล่าว ออกจากราชการ พลตำรวจตรีสมพงษ์ ระบุว่า ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ต้องไปสอบถามกับผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สำหรับกรณีที่นายอัจฉริยะ ต้องการให้เปลี่ยนตัวคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง จากการพูดคุยเบื้องต้น พบว่านายอัจฉริยะ ไม่ได้ติดใจผู้กำกับสน. สายไหม เนื่องจากเพิ่งเข้ามารับหน้าที่ได้ไม่นาน