ฝรั่งเศส ระบุ นโยบายฝ่ายเดียวสร้างสันติภาพตะวันออกกลางไม่ได้

ประธานาธิบดีเอ็มมานูแอล มาครง แห่งฝรั่งเศส กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ว่าการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ต้องไม่ใช่การริเริ่มจากเพียงฝ่ายเดียวและไม่เหยียบย่ำสิทธิ์อันชอบธรรมของชาวปาเลสไตน์ แล้วอ้างถึงการรักษาสันติภาพ ความยุติธรรม การรักษาความปลอดภัยของอิสราเอล ซึ่งเขาหมายถึงการที่สหรัฐฯ ประกาศรับรองให้นครเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล และให้ย้ายสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ออกจากเทล อาวีฟมาที่เยรูซาเล็ม ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางของข้อพิพาทระหว่าง 2 ฝ่ายมาเป็นเวลานาน นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังตัดงบประมาณช่วยเหลือกลุ่มองค์กรด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติในปาเลสไตน์ กับปิดสำนักงานขององค์กรชาวปาเลสไตน์ที่ตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตัน ซึ่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสกล่าวว่า เป็นความผิดพลาด และว่าเขาพร้อมสนับสนุนแนวทางแก้ปัญหาสองรัฐหากเกิดจากความเห็นพ้องของทั้งสองฝ่าย

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ของฝรั่งเศสกับยุโรปซึ่งทำงานด้านการสร้างสันติภาพตะวันออกกลาง ยอมรับว่าพวกเขามีทางเลือกไม่มากนักในการร่างแผนสร้างสันติภาพ และเมื่อวันจันทร์ประธานาธิบดี มาครงประชุมนอกรอบกับประธานาธิบดี โดนัลด์  ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และแสดงความเห็นว่า การสร้างแรงกดดันต่อชาวปาเลสไตน์ไม่ได้นำไปสู่เป้าหมายที่น่าพอใจ จึงเสนอให้หาหนอื่นเพื่อแก้ปัญหา แต่ประธานาธิบดี ทรัมป์ยืนยันว่าการสร้างสันติภาพตามนโยบายของสหรัฐฯมีความคืบหน้า

ด้านสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งจอร์แดน ทรงมีกระแสรับสั่งเห็นพ้องกับคำกล่าวของประธานาธิบดี ฝรั่งเศส เพราะในการทำข้อตกลงต้องประกอบไปด้วยคู่กรณี และการทำข้อตกลงที่จะเป็นเป้าหมายการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างอนาคตใหม่ ได้รับการสนับสนุนที่แข็งแกร่ง และมั่นคงจากประชาคมโลก

...

F163