ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.
+++วันนี้ ต้องติดตาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธาน ก.ตร. เรียกประชุม ก.ตร.วาระพิเศษ เพื่อพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับนายพลตำรวจ ตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) และตำแหน่งเทียบเท่า ถึงผู้บังคับการ (ผบก.) วาระประจำปี 2561 แทนตำแหน่งผู้เกษียณอายุราชการ
+++ขณะที่ นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมครม.ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.เน้นย้ำในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)หากมีรัฐมนตรีคนใดสนใจงานการเมืองต่อไป ถือเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ แต่ให้ทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย และอย่าให้กระทบ ขัดต่อการปฏิบัติในตำแหน่งหน้าที่ในปัจจุบัน
+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ไม่กลัวกับแรงเสียดทานจากนักการเมืองที่รุมโจมตีอย่างไรจะควบคุมอารมณ์ตัวเองเมื่อเข้าสู่การเมือง ยืนยันว่าผมไม่กลัวเพราะผมอยู่กับพวกท่านมา 4 ปีแล้ว ผมก็อดทน และพยายามทำความเข้าใจ แต่บางครั้ง ก็มีนิดหน่อยหงุดหงิดบ้างอะไรบ้าง ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ แต่ผมก็ปรับตัวมาโดยตลอด 4 ปีก็มีการพัฒนามากพอสมควรจะเห็นได้ว่าเสียงของผมวันนี้นุ่มนวลขึ้นใช่หรือไม่ ไม่ดุเดือด ไม่อะไรทั้งนั้น พอแล้ว”
+++ส่วนจะไปสังกัดอยู่กับพรรคการเมืองใด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของอนาคต ตนยังไม่ได้ไปตรงไหนสักอันเลย ถ้าจะพิจารณาก็ต้องดูว่า จะต้องไปเป็นสมาชิกพรรคใดหรือไม่ และต้องพิจารณาว่าจะไปร่วมกับเขาได้แค่ไหนอย่างไร
+++พรรคเพื่อไทย นัดประชุมเวลา 10.00น.เพื่อพิจารณาข้อบังคับของพรรคใหม่ ก่อนลงมติพิจารณากัน ในที่ประชุมใหญ่ช่วงต้นเดือนหน้า นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.)กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศสนใจงานทางการเมืองว่าเป็นสิ่งที่ประชาชนสงสัยมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว น่าคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์เริ่มสนใจงานทางการเมืองมาตั้งแต่เมื่อไหร่ สนใจตั้งแต่สมัยเป็น ผบ.ทบ.หรือ เพิ่งมาสนใจหลังการยึดอำนาจ22พฤษภาคม 2557 อยากจะบอกผู้ถืออำนาจรัฐว่าถ้าจะเข้าสู่การเมืองและการเลือกตั้งอย่างสง่างาม ขอให้วางปืนลง ปลดล็อกให้พรรคการเมือง เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมือง แล้วเข้าสู่การเลือกตั้ง ช่วยกันทำให้เป็นการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม จะดีกว่า
+++ส่วนพรรคประชาธิปัตย์นัดประชุมวิสามัญวันนี้ เวลา 13.00 น. นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคได้เดินทาง เข้าหารือกับนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นมีความเห็นพ้องต้องกันเรื่องการให้สิทธิ์สมาชิกเดิมกว่า 2.5ล้านคนที่ต้องพ้นสภาพไปเพราะคำสั่ง คสช.ที่53/2560 มีสิทธิ์ร่วมหยั่งเสียงได้ โดยนับคะแนนแบบ1คน1เสียง เท่ากันรวมถึงการเปิดให้ผู้เข้าชิงดีเบตแสดงวิสัยทัศน์ แต่โดยรายละเอียดทั้งเกณฑ์รับรอง จากอดีต ส.ส.หรือสมาชิกพรรค น้ำหนักการหยั่งเสียงว่าจะใช้เกณฑ์ผู้ได้คะแนนสูงสุดหรือจะต้องได้ ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของผู้หยั่งเสียงทั้งหมด จะต้องมีการหารือระหว่าง 3 ฝ่าย อีกครั้ง คือ ฝ่ายตนเอง ฝ่ายนายอภิสิทธิ์ และฝ่าย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก ในช่วงวันที่ 29 หรือ 30 กันยายนนี้
+++ส่วนการตัดสินใจลงแข่งขัน นายอลงกรณ์ ยืนยันว่า พร้อมเข้าแข่งขัน แต่ต้องรอให้มีความชัดเจนเรื่องกติกาก่อน จึงจะตัดสินใจอีกทีหนึ่งเพราะเงื่อนไขบางอย่าง เช่น จำนวนสมาชิกรับรองควรมีการผ่อนคลายเพราะระยะเวลาน้อยเป็นข้อจำกัดอยู่
+++นายสรวุฒิ เนื่องจํานงค์ อดีต ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศตัวร่วมกับกลุ่มสามมิตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
+++นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระบุว่ามีความสนใจงานการเมืองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดที่ใครจะสนใจเรื่องการเมืองและยังไม่จำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่ง
+++ส่วนคดีที่ดินรัชดา ตัดสินจำคุกนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเวลา 2 ปี แต่นายทักษิณได้หลบหนี แต่คดีดังกล่าวจะหมดอายุความในวันที่ 21 ตุลาคม 2561นี้ แต่ยังไม่สามารถนำตัวมาดำเนินคดีได้ นายวิษณุกล่าวว่า หากคดีหมดอายุความแล้วถือว่าต้องยกประโยชน์ให้จำเลย แต่ไม่ได้มองว่า เจ้าหน้าที่ทำงานล่าช้า เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบแล้ว แต่ติดอุปสรรคที่ไม่สามารถนำตัวนายทักษิณกลับมาดำเนินคดีได้ ส่วนคดีอื่นๆที่ยังค้างอยู่ในระหว่างที่นายทักษิณอยู่ต่างประเทศ จะสามารถดำเนินการได้หรือไม่นั้น บางเรื่องอาจหมดอายุความไป แต่บางเรื่องสามารถดำเนินคดีได้
+++พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษก ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้มีมติแต่งตั้งนายสุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์ รองผู้ว่าการ ฝ่ายก่อสร้างและบำรุงรักษา เป็นผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) คนใหม่
+++เกิดเจดีย์หอระฆัง วัดพระยาทำวรวิหาร ยุบตัวลงมา มีคนงานติดใต้เจดีย์ 12 คน จากแรงงานทั้งหมด 17 คน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ11 คน สาหัส 2 คน นำส่งรพ.ศิริราช ด้านสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) นำโดย รองศาตราจารย์(รศ.) เอนก ศิริพานิชกร ประธานสาขาวิศวกรรมโยธา และ รศ.สิริวัฒน์ ไชยชนะ ที่ปรึกษา วสท. ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายเหตุ เจดีย์วัดพระยาทำ ย่านบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ที่อยู่ระหว่างบูรณะได้พังยุบตัวลง
ซึ่งในวันนี้เวลา09.00น.วสท.จะขอความร่วมมือกับภาควิชาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในการนำเทคโนโลยีเครื่องสแกน 3 มิติ มาตรวจสอบว่าจะมีการล้มลงมาหรือไม่ และจะให้กรมศิลป์ฯ ดำเนินการบูรณะต่อไป
+++รศ.สิริวัฒน์ กล่าวว่า จากการยุบตัวดังกล่าวเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเนื้อดินที่รองรับตัวเจดีย์คงมีความอ่อนตัว ทำให้รอยต่อของโครงสร้างภายในเคลื่อนตัวตามไปด้วยสำหรับเจดีย์ดังกล่าวเป็นโครงสร้างโบราณไม่เหมือนสมัยใหม่ จึงไม่มีโครงเหล็กยึดภายใน ฉะนั้นระหว่างการซ่อมแซมโครงสร้างภายนอกตามหลักวิศวกรรมจะต้องเสริมโครงสร้างเฝือกให้ผิวนอกของเจดีย์เป็นเนื้อเดียวกันก่อน จึงค่อยยกฐานเจดีย์ตามเดิม
+++เจดีย์ดังกล่าวถูกเรียกกันว่าเจดีย์ยักษ์ แต่เดิมเป็นหอระฆังมีอายุนานหลายร้อยปีซึ่งอยู่ระหว่างการตกแต่งพื้นผิวภายนอกใหม่ และยกระดับความสูงไม่ต่ำกว่า 1.3 เมตรจากเดิม โดยเริ่มซ่อมแซมตั้งแต่เมื่อเดือนพ.ค. ก่อนจะยุบตัวจนยอดหักโค่นลงมาตามที่เป็นข่าว และอธิบายอีกว่า ในการซ่อมแซมโบราณสถานต่างๆ จะต้องมีการทำพิธีบวงสรวงตามประเพณีความเชื่อพราหมณ์ แต่ทราบมาว่าในการซ่อมแซมครั้งนี้ มีเพียงการนำพวงมาลัยมาไหว้เท่านั้น