สหรัฐอเมริกาและจีนประกาศใช้มาตรการกำแพงภาษีในอัตราใหม่เมื่อวานนี้ โดยเป็นสินค้าของจีนซึ่งส่งออกมายังสหรัฐฯเกือบ 6,000 รายการ มูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กับสินค้าจากสหรัฐฯที่ส่งออกไปยังจีน 5,200 รายการ มูลค่ารวม 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ทั้ง 2 ประเทศเก็บภาษีไปแล้วฝ่ายละ 50,000 ล้านดอลลาร์
โกลด์แมน แซคส์ ประเมินว่ามีความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนทั้งหมด ตามที่ประกาศว่าจะขึ้นภาษีเป็นร้อยละ 25 ในวันที่ 1 มกราคม 2562 หากทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่ได้ข้อสรุปทางการค้า แต่ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่สามารถกำหนดว่าจะมีการเจรจาเมื่อใด เนื่องจากจีนมีความเห็นว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่มีความจริงใจในการเจรจาการค้า
ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ หรือ บีไอเอส เตือนว่า เศรษฐกิจโลกเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤติเหมือนเมื่อสิบปีก่อนและไม่มียาเหลือพอที่จะรักษาเป็นครั้งที่สอง เพราะการฟื้นตัวหลังจากเกิดวิกฤติการเงินในปี 2550-51 มีความไม่สมดุลประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ต้องเผชิญกับแรงกดดันมากขึ้น
และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ เตือนว่ามีแนวโน้มความเสียหายทางเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาลจากสงครามการค้าของ 2 ประเทศมหาอำนาจ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว
โดยก่อนหน้านี้ ฟิตช์ เรตติ้งส์ปรับลดตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจโลก เนื่องจากนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐฯที่ดำเนินมาถึงจุดที่ส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า ความขัดแย้งทางการค้าที่ยาวนานจะส่งผลกระทบต่อทั้ง 2 ฝ่าย และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในวงกว้างขึ้น รวมถึงส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จีนจึงรอการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ เนื่องจากผลการสำรวจโดยทั่วไปชี้ว่าพรรคเดโมแครตได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ยังมีนักเศรษฐศาสตร์บางคน ที่วิเคราะห์ว่าจีนอาจจะปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่าลงอีกครั้งเพื่อรองรับผลกระทบต่อการส่งออก
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่ สหประชาชาติในสัปดาห์นี้และพบหารือนอกรอบกับนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น เกี่ยวกับเกาหลีเหนือและคดีลักพาตัวพลเมืองญี่ปุ่น ตลอดจนการค้าสหรัฐฯ-ญี่ปุ่นและการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งในเบื้องต้นญี่ปุ่นยอมรับการเจรจาข้อตกลงการค้าทวิภาคี เพื่อให้สหรัฐฯ ยกเว้นการเรียกเก็บภาษียานยนต์
การประชุมครั้งนี้ ประธานาธิบดี ทรัมป์ ถูกจับตามองในหลายประเด็น ตั้งแต่ประเด็นสงครามการค้าไปจนถึงเกาหลีเหนือ โดยในวันนี้ ประธานาธิบดี ทรัมป์ มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุม และพบหารือกับผู้นำประเทศต่างๆ ตั้งแต่ประธานาธิบดี เอ็มมานูแอล มาครง ของฝรั่งเศส, นายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ ของสหราชอาณาจักร, ประธานาธิบดีมุน แจ อิน ของเกาหลีใต้ จากนั้นจะประชุมร่วมกับสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติในวันพุธ ซึ่งคาดว่าจะเป็นการหารือเกี่ยวกับอิหร่าน ซึ่งสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างมหาอำนาจกับอิหร่าน แล้วกลับมาใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่ออิหร่านอีกครั้ง
ทั้งนี้ ประธานาธิบดี ทรัมป์ เปิดเผยว่า เขาจะพบกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เป็นครั้งที่ 2 ในไม่ช้า และนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐ คาดหวังว่าจะเดินทางไปยังกรุงเปียงยางภายในสิ้นปีนี้เพื่อจัดเตรียมรายละเอียดเกี่ยวกับการประชุม
ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 2 สู่ระดับสูงสุดรอบ 4 ปีหลังจากที่ซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย ไม่เพิ่มการผลิต แม้ว่าประธานาธิบดี ทรัมป์ จะเรียกร้องให้เพิ่มกำลังการผลิต
โดยในการประชุมปิโตรเลียมแห่งเอเชียแปซิฟิก (เอพีพีอีซี) ประจำปี ที่สิงคโปร์ นายแดเนียล แย็กกี ประธานบริษัทเมอร์คิวเรีย อีเนอร์จี เทรดดิ้ง เตือนว่าปริมาณน้ำมันดิบจำนวนเกือบ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน อาจจะหายไปจากตลาดได้ในสิ้นไตรมาส 4 ของปีนี้ เนื่องจากการที่สหรัฐฯออกมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจอิหร่าน จึงมีความเป็นไปได้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นไปถึงระดับ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลได้ในปีหน้า
และในระหว่างวันที่ 25-26 กันยายนนี้ ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ซึ่งคาดว่าจะประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้ง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 1.30 ปิดที่ 72.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดในรอบกว่า 2 เดือน
เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 2.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 81.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์ ลดลง 181.45 จุด หรือร้อยละ 0.68 ปิดที่ 26,562.05 จุด
เอสแอนด์พี ลดลง 10.30 จุด หรือร้อยละ 0.35 ปิดที่ 2,919.37 จุด
แนสแดค เพิ่มขึ้น 6.29 จุด หรือร้อยละ 0.08 ปิดที่ 7,993.25 จุด
ส่วนปัญหาอุทกภัยในสหรัฐ ทางการเขตจอร์จทาวน์ รัฐเซาท์แคโรไลนา ประกาศอพยพประชาชนมากกว่า 8,000 คนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำหลายสายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ที่ฟิลิปปินส์ จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดินถล่ม ที่สืบเนื่องมาจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นมังคุด เพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 95 รายแล้ว
ส่วนอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นจ่ามี บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีแนวโน้มจะเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน และเคลื่อนเข้าประเทศญี่ปุ่นในช่วงวันที่ 29-30 กันยายนนี้
....