หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) จ่ายเงินชดเชยแก่บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด เป็นวงเงิน 1,790 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย รวมแล้วกว่า 4,000 ล้านบาท จากกรณีการสร้างทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ-รังสิต ที่ทำให้บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ ขาดรายได้
รายงานข่าวจากกทพ. เปิดเผยว่า จะรอรับฟังข้อสังเกตจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในวันพรุ่งนี้ก่อนว่าครม.มีข้อสังเกตอย่างไร จากนั้นจะนำเสนอบอร์ดกทพ.ต่อไป ยืนยันว่าเรื่องนี้สามารถเจรจากันได้ และยังไม่ได้มองถึงการเร่งชำระค่าชดเชย แต่ยืนยันว่ากทพ.จะต้องเป็นผู้ชำระและจะชำระได้แน่นอน
ส่วนที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เตรียมใส่ชุดดำชุมนุมวันพรุ่งนี้ กทพ.ได้เข้าเจรจาทำความเข้าใจแล้ว ซึ่งสหภาพแรงงานฯก็เข้าใจถึงคดีที่เกิดขึ้นดี แต่ถ้ายังมีการชุมนุมใส่ชุดดำในวันพรุ่งนี้ก็เป็นสิทธิ์ของสหภาพแรงงานฯที่ทำได้ ซึ่งกทพ.ก็ไม่มีแผนรับมือใดๆและเชื่อว่าจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาในการทำงานร่วมกัน สำหรับคดีนี้นับเป็นคดีแรกที่กทพ.เป็นฝ่ายแพ้คดีให้คู่ความ โดยการสร้างทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ เกิดมาจากการสร้างเพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ปี 2541
ส่วนการปิดปรับปรุงสะพานพระราม 9 กทพ.จะเริ่มปิดปรับปรุง หลังสะพานขึงคู่ขนานสร้างแล้วเสร็จ ยังกำหนดระยะเวลาไม่ได้ว่าจะปิดปรับปรุงนานเท่าใด แต่มั่นใจว่าประชาชนจะไม่ได้รับความเดือดร้อน เพราะมีสะพานขึงคู่ขนานคอยรองรับการสัญจรอยู่ โดยวางแผนให้สะพานขึงคู่ขนานทั้งโครงการต้องแล้วเสร็จภายในประมาณ 3 ปี
สำหรับกรณีที่มีรถจอดเสียบนไหล่ทางแล้วมีรถยนต์มาชนจนเป็นเหตุให้มีผู้ตกทางด่วนลงมาเสียชีวิตว่า ทางด่วนที่สร้างทุกเส้นทางได้รับมาตรฐานสากล และมีความปลอดภัยเต็มร้อย หากผู้ใช้รถไม่ประมาทก็จะไม่เกิดเหตุ
ส่วนที่ตำรวจเคยออกมาระบุว่าจะมีการขอให้ใช้ไหล่ทางบนทางด่วนสัญจรได้ในชั่วโมงเร่งด่วน ยืนยันว่า ไหล่ทางคือที่สำหรับให้รถฉุกเฉินวิ่งเท่านั้น ไม่แนะนำให้รถส่วนบุคคลใช้พลการ ซึ่งตัวเองไม่ยืนยันว่าเคยมีการเสนอเรื่องขอใช้ไหล่ทางสัญจรมาที่กทพ.หรือไม่ พร้อมกันนี้ไม่ขอตอบ หลังมีข่าวว่าวันพรุ่งนี้จะมีการเสนอแต่งตั้งผู้ว่าการกทพ.คนใหม่ให้ที่ประชุมครม.เห็นชอบ โดยขอให้รอผลจากที่ประชุมครม.เอง แต่ยอมรับว่าหากมีผู้ว่าการกทพ.คนใหม่ อาจทำให้นโยบายต่างๆของ กทพ.เปลี่ยนแปลงได้ และยังยืนยันว่าจะไม่มีการปรับขึ้นค่าทางด่วนไปอีกอย่างน้อยประมาณ 5 ปี หลังมีการปรับขึ้นไปเมื่อไม่นานนี้ ซึ่งการปรับขึ้นจะพิจารณาตามวงรอบปกติที่จะมีการปรับขึ้นทุกๆ 5 ปีอยู่แล้ว