การเสนอใช้คำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)มาตรา 44 พืชเสพติดประเภทกัญชา ให้สามารถใช้ทดลองวิจัยและรักษาพยาบาล นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ( ปปส .) กล่าวว่า ขณะนี้พืชกัญชายังอยู่ระหว่างการพิจารณา แต่การอนุญาตนั้นจะให้ใช้เฉพาะทางการแพทย์เท่านั้น เช่น มหาวิทยาลัยรังสิต ขอมาเพื่อนำไปทดลองสกัดทำยา เพียงแต่ผลหรือการทดลองของพืชกัญชายังไม่สามารถนำมาทดลองในผู้ป่วยที่เป็นคนได้ เนื่องจากติดขัดข้อกฎหมาย ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่ง ขณะนี้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มอบ หมายให้ ป.ป.ส. ไปศึกษาข้อดีข้อเสีย และความเป็นไปได้ว่าสามารถทำได้หรือไม่ จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องใช้กฎหมายพิเศษเข้าช่วย คาดว่าจะสามารถเสนอรายละเอียดให้คสช.พิจารณาได้ภายใน 7-10 วัน
เลขาธิการปปส. ยอมรับมีความกังวลเรื่องมาตรการจัดการดูแล เนื่องจากเกรงว่าดอกกัญชา จะถูกนำไปใช้ผลิตยาเสพติด เพราะมีการปลูกเป็นจำนวนมาก ดังนั้นหากมีความจำเป็นจะต้องใช้คำสั่งพิเศษ ก็ต้องกำหนดเรื่องการควบคุมการจัดเก็บ ผลผลิต และปริมาณให้ชัดเจนด้วย ทั้งนี้ในต่างประเทศพบว่าพืชกัญชาบางทีก็ไม่ได้รักษาโรคหายสำเร็จ เช่น ประเทศออสเตรียปลูกกัญชาอยู่ในเฉพาะโรงเรือนเพื่อนำมาสกัดน้ำมันกัญชา ซึ่งปลูกกัญชาเพียง 2-3 ไร่ นำมาใช้สำหรับทดลองเท่านั้น ต้องดูเรื่องสายพันธุ์ การผลิต การปลูก เพราะยังจัดกัญชาอยู่ในพืชยาเสพติดประเภท 5 โดยทางการแพทย์พบหากเสพมากจะกระทบต่อสมองผู้เสพ ส่วนพืชกระท่อมยังอนุโลมให้ใช้ในวิถีชีวิต กินเคี้ยวตามปกติได้ แต่ไม่ให้นำไปต้มกินเป็นยาเสพติดเด็ดขาดเพราะผิดกฎหมาย
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าบริษัทเครื่องดื่มดังจะทำเบียร์กัญชาขายในต่างประเทศ นายศิรินทร์ยา กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีจริง โดยจะมีสารกัญชาแต่ไม่มีแอลกอฮอล์ และขายในร้านขายยาในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาเท่านั้น ซึ่งจะต้องได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายที่กำหนดช่วงอายุผู้ซื้ออย่างชัดเจน