โกลด์แมนแซคส์เตือนสงครามการค้าจีนกับสหรัฐฯอาจส่งผลถึงสินค้าจีนทั้งหมด

สงครามการค้าระหว่าง สหรัฐฯ กับจีน ซึ่งเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจโลก ยกระดับความตึงเครียดมากขึ้นเมื่อมาตรการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าระหว่าง 2 ประเทศมีผลบังคับใช้ โดยสหรัฐฯเรียกเก็บภาษีสินค้าจากจีนเกือบ 6,000 รายการในอัตราร้อยละ 10 วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อรวมกับอัตราภาษีที่มีการบังคับใช้รอบแรกในเดือนกรกฎาคมจะมีจำนวน 2 แสน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือครึ่งหนึ่งของสินค้าจีนที่นำเข้าสหรัฐฯ ซึ่งนอกจากนี้แล้วสหรัฐฯ จะขึ้นภาษีเป็นร้อยละ 25 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 เว้นแต่ทั้ง 2 ประเทศจะทำความตกลงกันได้ โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวหาจีนทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม และต้องการให้จีนหยุดพฤติกรรมขโมยเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ

ส่วนจีนตอบโต้ด้วยการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ในอัตราร้อยละ 5-10 วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ พร้อมประกาศว่าสหรัฐฯเป็นผู้เริ่มต้นการทำสงครามการค้าครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ และจะยื่นเรื่องต่อองค์การการค้าโลก อย่างไรก็ตามจากรายการสินค้าของสหรัฐฯ ที่ถูกจีนเรียกเก็บภาษีซึ่งเน้นไปที่สินค้าเกษตรที่เป็นกลุ่มฐานเสียงของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปรากฏว่ามูลค่าของภาษีที่จีนเรียกเก็บลดลงมาอยู่ที่ 5 หมื่นล้านดอลลาร์

ด้านโกลด์แมนแซคส์ วาณิชย์ธนกิจ เตือนว่า มีความเป็นไปได้ที่สงครามการค้าระหว่าง 2 ประเทศจะยืดเยื้อและสหรัฐฯอาจออกมาตรการภาษีที่มีผลต่อสินค้านำเข้าจากจีนทุกรายการ และแน่นอนว่าจะย้อนกลับมาส่งผลให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อภายในสหรัฐฯ  

ส่วนค่าเงินบาท วันนี้เปิดตลาดที่ 32.46-32.48 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดเมื่อวันศุกร์ที่ 21 กันยายน ที่ 32.36-32.38  บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และทิศทางของเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงเนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์

..