ในวันนี้ จะเป็นวันแรกที่สหรัฐฯ และจีนเริ่มบังคับใช้อัตราภาษีสินค้านำเข้าจากอีกฝ่ายรอบใหม่ ในเวลา 12.00 น.ตามเวลาที่กรุงปักกิ่งของจีน ตามที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ออกประกาศเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากจีนครอบคลุมสินค้า 5,745 รายการวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ ใช้อัตราร้อยละ 10 ทั้งจะขึ้นภาษีเป็นอัตราร้อยละ 25 ในวันที่ 1 มกราคม 2562 ส่วนกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ออกประกาศลงโทษบุคลากร และหน่วยงานด้านกลาโหมของจีน โดยอ้างถึงการซื้ออาวุธจากรัสเซีย
ด้านจีนตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯในอัตราร้อยละ 5-10 ครอบคลุมสินค้า 5,207 รายการ วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ทั้งยกเลิกแผนการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งเดิมกำหนดไว้ในสัปดาห์นี้กรุงวอชิงตัน โดยแจ้งว่าจะไม่มีการเจรจาจนกว่าการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ จะเสร็จสิ้น
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จากรอยเตอร์ ระบุว่า จากมาตรการกำแพงภาษี ทำให้ผู้ผลิตจำนวนมากย้ายฐานการผลิตออกจากจีนไปยังประเทศอื่นในเอเชีย
ขณะที่บลูมเบิร์ก วิเคราะห์ว่า ช่วงเวลาระหว่างการออกประกาศจนถึงการบังคับใช้ที่น้อยเกินไป ทำให้ผู้ประกอบการสหรัฐฯ ร้องเรียนเรื่องการหาแหล่งวัตถุดิบ และตลาดส่งออกเพื่อทดแทน นอกจากนี้สงครามการค้าที่ยืดเยื้อจะส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ โดยเฉพาะการขึ้นภาษีศุลกากรสินค้าประเภท เฟอร์นิเจอร์เครื่องนุ่งห่มและเทคโนโลยี
...