ทันสถานการณ์โลก วันที่ 24 กันยายน 2561

24 กันยายน 2561, 05:58น.


ที่อิหร่าน สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่กลุ่มคนร้าย 4 คนพร้อมอาวุธครบมือ ก่อเหตุกราดยิงในระหว่างพิธีสวนสนามของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน (ไออาร์จีซี) ที่เมืองอาห์วาซ ในจังหวัดคูเซสถาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ใกล้กับพรมแดนอิรัก ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 29 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 70 คน ส่วนคนร้ายทั้ง 4 คนถูกสังหารทั้งหมด



อยาตอลเลาะห์ อะลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน กล่าวว่าเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้สูญเสียกำลังพลของไออาร์จีซีมากที่สุดในคราวเดียว และว่าเป็นอาชญากรรมจากการสมคบคิดโดยรัฐหุ่นเชิดของสหรัฐฯ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งต้องการทำลายเสถียรภาพของอิหร่าน



ประธานาธิบดี ฮัสซัน รูฮานี กล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการก่อการร้าย ดังนั้นอิหร่านจะเดินหน้าเพิ่มแสนยานุภาพในการป้องกันประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนาขีปนาวุธข้ามทวีป



นายโมฮัมหมัด จาวาด ซารีฟ รัฐมนตรีการต่างประเทศอิหร่าน กล่าวว่ากลุ่มคนร้ายได้รับการจ้างวาน ฝึกฝน ติดอาวุธและสนับสนุนด้านการเงินโดยรัฐบาลต่างชาติ โดยกระทรวงการต่างประเทศ เชิญเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก และอุปทูตสหราชอาณาจักรเข้าพบเพื่อหารือกรณีที่ทั้งสามประเทศเป็นสถานที่พักพิงให้กับสมาชิกกลุ่มก่อการร้าย และเรียกร้องให้ส่งตัวกลุ่มคนเหล่านั้นมาดำเนินคดีในอิหร่านด้วย



นายบาห์ราม กาเซมี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ระบุว่า การที่สหภาพยุโรป หรืออียู ไม่ยินยอมขึ้นทะเบียนบุคคลที่ก่อเหตุเป็นผู้ก่อการร้าย เพราะบุคคลเหล่านี้ไม่ได้ก่อเหตุในยุโรปถือเป็นสิ่งที่อิหร่านยอมรับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง



ที่อียิปต์ ศาลกรุงไคโร มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ควบคุมตัวอดีตประธานาธิบดี ฮอสนี มูบารัก พร้อมบุตรชาย 2 คน คืออาลาและกามาล ไว้ในเรือนจำระหว่างเพื่อรอการไต่สวนครั้งต่อไปในคดีใช้ข้อมูลวงในซื้อขายหุ้นเมื่อปี 2558 โดยในขณะนี้ทั้ง 3 คนรับโทษจำปี จากคดีที่ศาลพิพากษาเมื่อปี 2557 จากการนำงบประมาณส่วนกลางไปใช้ซ่อมแซมคฤหาสน์ส่วนตัว ทั้งต้องใช้คืนเงินที่ยักยอกไป 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ



ที่แทนซาเนีย สถานีโทรทัศน์แห่งชาติ รายงานความคืบหน้าของการค้นหาผู้สูญหายในเหตุเรือเฟอรี่เอ็มวี ไนเอเรรี จมกลางทะเลสาบวิกตอเรีย ซึ่งเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกา และเป็นพรมแดนธรรมชาติเชื่อมระหว่าง 3 ประเทศ คือ เคนยา ยูกันดา และแทนซาเนีย เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว โดยพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 218 คนแล้วและช่วยชีวิตได้ 41 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าอัตราที่เรือสามารถรับได้คือ 101 คน ส่วนสื่อท้องถิ่น รายงานว่ากัปตันเรือสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าปล่อยให้ผู้ที่ไม่มีความชำนาญควบคุมเรือในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ



ประธานาธิบดีแทนซาเนีย ออกคำสั่งจับกุมผู้จัดการเรือเฟอร์รี เนื่องจากประมาทขั้นรายแรง พร้อมให้มีการไว้อาลัยเป็นเวลา 4 วัน



รัฐบาลสหรัฐฯ อยู่ระหว่างพิจารณาระเบียบใหม่ตามนโยบายของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ด้านการต่อต้านผู้อพยพ และลดจำนวนผู้ลี้ภัยในอเมริกา โดยระเบียบใหม่จะลดโอกาสของผู้อพยพที่จะได้รับกรีนการ์ดน้อยลง



นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมที แห่งอินเดีย ประกาศโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้กับชาวอินเดียผู้มีฐานะยากจนกว่า 500 ล้านคน ซึ่งทำให้สื่ออินเดีย เรียกนโยบายนี้ว่าเป็นโมทีแคร์ ตามชื่อของโอบามาแคร์ ของอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา ของสหรัฐ 



ในวันที่ 26 กันยายนนี้ นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่นจะประชุมกับประธานาธิบดี ทรัมป์ แห่งสหรัฐโดยจะเป็นการประชุมนอกรอบการประชุมสมัชชาสหประชาชาติที่นิวยอร์ก ซึ่งก่อนหน้านี้ประธานาธิบดี ทรัมป์ แสดงความไม่พอใจที่ญี่ปุ่นได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐ ฯ จึงต้องการให้ญี่ปุ่นควบคุมการส่งออกรถยนต์ไปยังสหรัฐฯ แต่ญี่ปุ่นก็คาดหวังว่าจะหลีกเลี่ยงมาตรการกีดกันทางการค้าได้



โดยในวันนี้ รัฐมนตรีเศรษฐกิจญี่ปุ่น กับผู้แทนการค้าสหรัฐจะหารือการค้าเป็นรอบที่สอง เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับการประชุมระหว่างผู้นำ



ส่วนแคนาดากับสหรัฐฯยังไม่สามารถทำความตกลงเพื่อปรับปรุงข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือ นาฟตา และแคนาดาต้องการให้สหรัฐฯ หยุดการข่มขู่ว่าจะเก็บภาษีรถยนต์ โดยในขณะนี้มีแรงกดดันมากขึ้นให้แคนาดาทำข้อตกลงกับสหรัฐฯเพื่อที่จะแก้ไขข้อตกลงนาฟตา หลังจากที่เม็กซิโกตกลงกับสหรัฐฯได้แล้วในเดือนก่อน



ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด จะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.25 จากระดับร้อยละ 1.75-2  เป็น 2 -2.25 ในการประชุม 2 วันคือวันที่ 25-26 กันยายนนี้ และจะประกาศเพิ่มระดับการลดขนาดงบดุลไปที่ระดับสูงสุดที่ 5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมทั้งการลดขนาดงบดุลในระดับที่เร่งขึ้น คงเป็นปัจจัยท้าทายต่อประเทศในตลาดเกิดใหม่ ที่อาจจะเผชิญกับความผันผวนของกระแสเงินทุนมากขึ้น



และแม้ว่าสงครามการค้าที่ยกระดับรุนแรงขึ้น อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่ไม่น่าจะปรับเปลี่ยนมุมมองต่อการประเมินภาพรวมการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ของเฟดในปีนี้ เพราะหากการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ แย่ลง ก็อาจจะมีการออกมาตรการเพิ่มเติม ที่ส่งผลกระทบต่อการค้าโลก แต่ก็จะกลับมาเป็นปัจจัยกดดันการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในท้ายที่สุด



สำหรับผลกระทบต่อไทย การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจเพิ่มแรงกดดันให้ประเทศในตลาดเกิดใหม่ที่มีพื้นฐานเศรษฐกิจต่างประเทศอ่อนแอ อาจจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตาม เพื่อลดผลกระทบของการไหลออกของเงินทุน อย่างไรก็ดี ในส่วนของประเทศไทยแรงกดดันต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับที่ต่ำเทียบกับกลุ่มประเทศในตลาดเกิดใหม่ เนื่องจาก ประเทศไทยมีพื้นฐานเศรษฐกิจต่างประเทศ แข็งแกร่ง โดยมีระดับทุนสำรองในระดับสูง และมีการพึ่งพาเงินทุนจากต่างประเทศไม่มาก ทั้งนี้ ปัจจัยที่ต้องจับตา คงหนีไม่พ้นความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายที่อาจจะส่งผลให้ค่าเงินบาทมีความผันผวนตาม



...

ข่าวทั้งหมด

X