การติดตามผลการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีนายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พร้อมคณะลงพื้นที่ ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดกองบิน 7 อำเภอพุนพิน และกล่าวว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานีมียาเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีนแพร่ระบาดในแหล่งชุมชน แต่ที่นี่จะไม่มีแหล่งผลิตยา ในส่วนของนักท่องเที่ยวมักจะใช้ยาเสพติดประเภทกัญชาและไอซ์ ทางจังหวัดจึงร่วมกันปราบปรามและสร้างการรับรู้ว่า การมาเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานีไม่จำเป็นต้องใช้ยา รวมถึงกำชับผู้ประกอบการว่าห้ามจำหน่ายยาเสพติดโดยเด็ดขาด ซึ่งการปราบปรามนี้จะต้องไม่กระทบกับการท่องเที่ยว
ด้านนายประเวศ ไทยประยูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีการแพร่ระบาดของยาเสพติด ระดับรุนแรงของทางภาคใต้ตอนบน เนื่องจากเป็นพื้นที่กึ่งกลางและมีขนาดกว้างมากที่สุดของภาคใต้ รวมถึงมีอุตสาหกรรม เกษตรกรรมและแหล่งท่องเที่ยว จึงมีการแบ่งการดูแลปัญหายาเสพติด 3 ส่วน คือ เมือง ที่เน้นกลุ่มแรงงานชั้นล่าง, ชนบท เน้นเยาวชน, แหล่งท่องเที่ยว เน้นนักท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ ผู้ที่มีอาชีพบริการ ซึ่งหากอยู่ในช่วงปาร์ตี้ฟูลมูน จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาร่วมงานประมาณ 30,000-60,000 คน จึงมีการตั้งด่านตรวจยาเสพติดและอาวุธก่อนเข้าพื้นที่ และใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตรวจความเรียบร้อย ทำให้ไม่มีปัญหาเสพยาและมั่วเซ็กในบริเวณจัดงานออกมาให้เห็นอย่างโจ่งแจ้ง โดย 4-5 ปีที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำให้สถานการณ์ยาเสพติดดีขึ้น
สำหรับการบำบัดผู้ป่วยที่ติดยาเสพติด นาวาอากาศโท จรุญ รามอ้น หัวหน้าศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดกองบิน 7 เปิดเผยว่า มีการจัดตั้งศูนย์ขึ้นเมื่อปี 2546 ตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดพุทธศักราช 2545 ให้ถือว่าผู้ติดยาเสพติดสมองเป็นผู้ป่วย จึงให้ชะลอการฟ้องคดี แต่ต้องจัดให้เข้าไปอยู่ในสถานที่บำบัดยาเสพติด เพื่อเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาล ทางกองทัพอากาศจึงจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูประเภทบังคับบำบัดแบบควบคุมตัวเข้มงวด ผู้ป่วยที่ติดยาเสพติดครั้งที่ 1 จะต้องเข้ารับการบำบัด 120 วัน หากกระทำผิดซ้ำครั้งที่ 2 จะเพิ่มเป็น 7 เดือน และครั้งที่ 3 เพิ่มเป็น 1 ปี 8 เดือน ปัจจุบันพบว่าร้อยละ 95 ของผู้ที่ผ่านกระบวนการฟื้นฟูสามารถเลิกเสพยาและไม่กลับไปกระทำผิดซ้ำ ซึ่งทางศูนย์จะมีการติดตามประเมินผลหลังการฟื้นฟูและกลับไปอยู่ที่บ้าน โดยใน 1 เดือนจะให้กลับมารายงานตัวและตรวจปัสสาวะ
ขณะที่นายกล้วย (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี ผู้ป่วยเข้ารับการบำบัด เล่าว่า เมื่อ 4 ปีก่อนเคยเข้ารับการบำบัดแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ต้องเข้าบำบัด 7 เดือน วันนี้เป็นวันที่ 186 แล้ว ซึ่งได้ทั้งความรู้เรื่องวิชาการ เช่น เรื่องโทษของยาเสพติดเป็นอย่างไร รวมถึงได้ฝึกอาชีพอาชีวะบำบัด ที่มีสอนหลากหลาย ทั้งการทำผลิตภัณฑ์จากใบลาน ผักตบ ลูกปาล์ม สาเหตุที่กลับไปเสพยาครั้งที่ 2 เนื่องจากครั้งแรกในตอนนั้นยังเด็ก ยังคิดไม่ได้ แต่ในครั้งนี้มีสติมากขึ้น คิดอะไรได้หลายอย่าง หากออกไปครั้งนี้ จะตั้งใจประกอบอาชีพสุจริต ช่วยงานครอบครัวพร้อมฝากไปถึงผู้ที่ติดยาว่าอยากให้เลิกเพราะมีแต่ให้โทษ ทำให้ครอบครัวแตกแยก เงินหามาได้เท่าไหร่ก็หมดไปกับยาเสพติด
...
ผสข.ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ