นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ใช้ถ้อยคำรุนแรงวิจารณ์จีนกรณีกักขังชาวมุสลิมอุยกูร์หลายแสนคนในค่าย “ปรับทัศนคติ” ซึ่งจีนอ้างว่า เพื่อป้องกันการแพร่กระจายลัทธินิยมความรุนแรงในมณฑลซินเจียง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน โดยนายปอมเปโอกล่าวว่า ความเชื่อของชาวมุสลิมอุยกูร์ในค่าย ซึ่งอาจจะมีจำนวนสูงหลายล้านคนถูกทำลายยับเยิน แต่นายปอมเปโอก็มิได้ระบุว่า สหรัฐฯ จะดำเนินมาตรการใด ๆ กับจีน แม้สมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติทั้งจากพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตจะทำหนังสือถึงนายปอมเปโอและนายสตีฟ มนูชิน รมว.คลัง เมื่อปลายเดือนที่แล้ว เรียกร้องให้ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จีน ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกักขังชาวอุยกูร์
นอกจากนี้ นายปอมเปโอยังได้แสดงความเป็นห่วงในชะตากรรมของชาวคริสเตียน ซึ่งตกเป็นเป้าหมายการปราบปรามของรัฐบาลจีน ซึ่งได้ทำการปิดโบสถ์และเผาคัมภีร์ไบเบิล รวมทั้งมีคำสั่งให้ชาวคริสเตียนลงนามในเอกสารเลิกนับถือศาสนาคริสต์
เป็นที่สังเกตว่า สหรัฐฯ หันมาให้ความสำคัญกับประเด็นสิทธิมนุษยชนในจีนในขณะที่มีปัญหาข้อพิพาททางการค้ามากขึ้น และล่าสุดสหรัฐฯ ยังได้เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินต่อกรมพัฒนายุทโธปกรณ์ของกระทรวงกลาโหมและผู้บริหารระดับสูงของจีนกรณีละเมิดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียด้วยการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ “ซูคอย เอสยู-35” และขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศ เอส-400
(0945 F171)