กรณีสื่อสิงคโปร์นำเสนอข่าวความเดือดร้อนของผู้ค้าแผงลอยในกรุงเทพมหานคร(กทม.) หลังกทม.มีนโยบายจัดระเบียบ ด้วยการยกเลิกจุดผ่อนผันบนทางเท้าจำนวนมาก สวนทางกับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ร้านค้าแผงลอยถือเป็นจุดดึงดูดสำคัญ นายวัลลภ สุวรรณดี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย เนื่องจาก ประชาชนร้องเรียนมาที่กทม. เกี่ยวกับปัญหาทางเท้า จึงจำเป็นต้องดูแลสิทธิของประชาชนในภาพรวม ดังนั้น การที่ กทม. ยกเลิกจุดผ่อนผันแล้วผู้ค้าจะไม่สามารถค้าขายบนทางเท้าได้เพราะถือว่าขัดต่อข้อกฎหมาย ทั้งนี้ การกำหนดจุดผ่อนผันในอดีตพื้นที่กทม. ยังไม่มีความหนาแน่น ก็ได้อนุโลมใช้พื้นที่เพื่อขายของได้ แต่ปัจจุบันพื้นที่ในกทม.หนาแน่นขึ้น ทั้งระบบขนส่ง รถไฟฟ้า การสัญจรของประชาชน นักท่องเที่ยวจำนวนมาก และการพัฒนาเมืองที่เติบโตขึ้นอย่างชัดเจน จึงมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง ให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ ดังนั้น การที่ประชาชนร้องเรียนปัญหาทางเท้าและปัญหาการจราจร กทม. จึงต้องดำเนินการแก้ไขปัญหานี้ ด้วยการจัดประชุมหารือเพื่อยกเลิกจุดผ่อนผัน ซึ่งไม่ได้ตัดสินใจกันเอง แต่เป็นการคำนึงถึงประชาชนส่วนใหญ่ที่ได้รับความเดือดร้อนและทุกอย่างเป็นไปตามฐานของข้อกฎหมาย ไม่อยากให้สังคมมองว่าการจัดระเบียบทางเท้าของกทม.ส่งผลกระทบด้านลบกับภาพลักษณ์ประเทศไทยที่ต่างชาติจะมองเข้ามา เพราะเสน่ห์ของประเทศไทย ต้องมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีบางจุดที่สามารถขายของบนทางเท้า เช่นบริเวณถนนข้าวสาร แต่ได้กำหนดช่วงเวลาการขาย จึงคิดว่าไม่ใช่ประเด็นที่จะพิจารณาว่าการจัดระเบียบครั้งนี้กระทบกับภาพลักษณ์ของประเทศหรือไม่ รวมถึงต้องพิจารณาข้อมูลที่ปรากฏในด้านอื่นๆ ด้วย เช่น นักท่องเที่ยวถูกล้วงกระเป๋า ถูกรถชนจากการเดินบนถนน ยืนยัน การจัดระเบียบเป็นไปตามพื้นฐานของกฎหมาย อีกทั้งภาพความเป็นจริงยังพบความเป็นไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยของผู้ค้าที่ให้พื้นที่สำหรับประชาชนเดินเพียง 60 ซม. จากทางเท้าที่กว้างถึง 3 เมตร ดังนั้นจึงจำเป็นต้องดูแลสังคมให้เป็นไปตามกฎหมาย จากการสำรวจความพึงพอใจของประชาชน พบว่าประชาชนมีความยินดีที่ กทม. จัดระเบียบเช่นนี้
ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม
แฟ้มภาพ