ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น. วันศุกร์ที่21กันยายน2561
+++สภาพอากาศ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ส่วนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีปริมาณฝนลดลงขอให้ประชาชนบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย พายุไซโคลน “โฟว์” (FOUR) บริเวณอ่าวเบงกอลตอนบน มีแนวโน้มจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศอินเดียตอนกลางในวันนี้ (21 ก.ย.61) สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปประเทศอินเดียควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย
+++น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ พร้อมเปิดเผยข้อมูล "ภาวะการนำเข้า-ส่งออก และดุลการค้า" ประจำเดือน ส.ค. ที่สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์
+++นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กทม.ได้นำร่องปักป้ายประชาสัมพันธ์ในพื้นที่สาธารณะ 37 แห่ง ขอความ ร่วมมือประชาชนห้ามซื้อขายและงดให้อาหารนกพิราบเพื่อป้องกันเหตุเดือดร้อนรำคาญและส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยแก่ผู้ใช้บริการสวนสาธารณะเพื่อตอบสนองนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้สั่งการให้ กทม. รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดระเบียบการให้อาหารนกในพื้นที่สาธารณะทั่วประเทศ ผิดตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ปี 2535 ที่ห้ามไม่ให้มีการให้อาหารสัตว์ในที่สาธารณะ หากพบฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 2.5 หมื่นบาท
++++วันนี้ ผู้เสียหาย 308 ราย ต้องลุ้นศาลแพ่งตัดสินคดีฟ้อง รถฟอร์ด เฟียสต้า-โฟกัส ว่าจะออกมาอย่างไร เพราะจะเป็นบรรทัดฐานดำเนินคดีแบบกลุ่มต่อไป หากมีส่วนที่ต้องบังคับคดีก็จะดำเนินการออกคำบังคับให้เสร็จสิ้นภายใน 7 วัน
+++นายโอภาส อนันตสมบูรณ์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งกรุงเทพใต้ กล่าวว่า ขณะนี้มี 308 ราย ศาลให้ดำเนินคดีแบบกลุ่ม class action มีผู้รับมอบอำนาจโจทก์ และทนายความจำเลย ส่วนผู้ประกอบการที่เดิมโจทก์ยื่นฟ้องไว้ 4 ราย ได้ถอนไปแล้วคงเหลือเพียงบริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์เซอร์วิสแห่งประเทศไทย จำเลยที่ 2 เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงเท่านั้น เพราะเป็นผู้สั่งผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย นอกจากคดีฟ้องรถยนต์ฟอร์ดแล้ว
+++ยังมีคดีฟ้องรถยนต์ มาสด้าอีก 200 คัน โดยคดียังอยู่ระหว่างการไต่สวนคดีแบบกลุ่มเช่นกัน คดีดังกล่าว เดิมผู้ใช้รถยนต์ฟอร์ดเฟียสต้า โฟกัส และอีโค่สปอร์ต รวม 10 ราย เป็นตัวแทนฟ้องคดีแบบกลุ่มจำนวน 421 ราย ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2560 เป็นคดีผู้บริโภค หมายเลขดำ ผบ.492/2560 เรียกค่าเสียหายเชิงลงโทษและจิตใจ รวมจำนวน 24,751,420.95 บาท คดีเคยดำเนินการไกล่เกลี่ยคู่ความมาแล้วโดยมีผู้ใช้รถยนต์จำนวน 113 ราย ยุติการฟ้องคดีจากการรับข้อเสนอเจรจา เหลือผู้ใช้รถยนต์ที่ยังประสงค์ดำเนินคดีแบบกลุ่มต่อไปอีก 308 ราย
+++ความคืบหน้า กรณีสุนัข 3 ตัวของเพื่อนบ้านใกล้เคียงกันหลุดออกมาไล่รุมกัด ด.ญ.วัยเพียง 4 ขวบเศษเสียชีวิตกลางถนนในหมู่บ้าน ต.บ้านเขว้า อ.บ้านเขว้า น.ส.เสาวรี จุลเขว้า แม่ของน้องตวงข้าว วัย 4 ขวบ ได้แจ้งความ เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของสุนัขโดยจะมีพิธีเผาศพน้องหรือจะนำไปเก็บไว้ก่อนที่สุสานในวันเสาร์ที่ 22 ก.ย.ที่วัดประทุมมาวารไปก่อนเพื่อรอ ผลดำเนินคดีกับเจ้าของสุนัขรายนี้ต่อไป
+++พ.ต.ท.เอกพล เพชรนอก รองผกก.สอบสวน สภ.บ้านเขว้า เปิดเผยว่า การแจ้งข้อหาควบคุมสัตว์ดุหรือสัตว์ร้าย ปล่อยปละละเลยให้สัตว์นั้นเที่ยวไป โดยลำพังในประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ จนเป็นเหตุให้เด็ก 4 ขวบ เสียชีวิตในครั้งนี้ แล้วที่อาจจะต้องมีโทษจำคุกไม่น้อยกว่า 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาทนั้น เป็นการแจ้งข้อหาในเบื้องต้นเท่านั้นและเมื่อแม่เด็กมาให้ปากคำก็จะได้รวบรวมพยานหลักฐาน และจะได้เรียกนายปิยะณัฐ แดงสร้อย อายุ 27 ปี เจ้าของสุนัขมารับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินคดีกระทำการโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายก็จะมีโทษหนักสูงขึ้นไปอีกมีโทษสูงจำคุกอีกไม่น้อยกว่า 10 ปี ซึ่งถือว่าเป็นคดีอาญาแผ่นดินแล้วยอมความไม่ได้
+++คดีตำรวจถูกร้องเรียนเรียกรับสินบน จนถูกย้ายออกจากตำแหน่ง 6 นาย พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. เปิดเผยว่า มอบหมายให้ พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รองผบช.น. เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกให้ออกจากราชการ 6 นาย มีการยัดข้อหาประชาชนจริงหรือไม่ จากการสอบสวนตำรวจทั้ง 6 นาย ยังให้การปฏิเสธ เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงดำเนินการตรวจสอบ จากนั้นจะส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ดำเนินคดีอาญาต่อไป ซึ่งในวันนี้ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมพ่อค้าส้มตำนายศักดิ์ชัย แน่นอุดร จะเดินทางไปให้ปากคำเพิ่มเติมและติดต่อความคืบหน้ากรณีจดหมายขู่ฆ่ากับทางผกก.สน.พญาไท
+++ปิดท้ายคดีเครนล้ม ที่ซ.ศาลาแดง สีลม 10.00 น. นัดเจรจากัน ระหว่างผู้เสียหาย สน.ทุ่งมหาเมฆ
+++วันนี้ ตำรวจนำตัววินจักรยานยนต์ทำอนาจารนักเรียนหญิงวัย 9 ขวบ ในห้องน้ำภายในวัดอยู่ดีบำรุงธรรม (วัดออเงิน) ถนนเพิ่มสิน แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม ฝากขังต่อศาลมีนบุรี หลังสอบสวนนายแอร์ คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างปฎิเสธ อ้างปวดท้องเข้าห้องน้ำ ตำรวจแจ้ง6ข้อหากระทำอนาจารเด็ก, พรากผู้เยาว์, หน่วงเหนี่ยวกักขัง, เมาแล้วขับ และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ก่อนนำตัวเข้าห้องคุมขังของ สน.สายไหม จากการสอบประวัตินายแอร์ไม่พบว่ามีบัตรประชาชน แต่ผู้ต้องหาอ้างว่าชื่อนายปัญญา แก้ววิลัย อายุ 45 ปี เมื่อนำชื่อดังกล่าวไปตรวจสอบในทะเบียนประวัติ พบว่าไปตรงกับเด็กชายคนหนึ่ง สุดท้ายบอกว่าตนชื่อนายแอร์ ไม่ทราบนามสกุล สรุปว่าเป็นชาว จ.สุพรรณบุรี มารดาไม่ได้แจ้งเกิด จึงเป็นเหมือนบุคคลตกสำรวจ แต่จากการสอบปากคำ ให้การเหมือนคนมีอาการทางสมอง พูดจาวกไปวนมา ด้านพ่อของเด็กกล่าวว่า ขณะนี้สภาพจิตใจของลูกดีขึ้นแล้ว หลังจากนี้ทีมจิตแพทย์จะวางแผนไปที่โรงเรียนและที่บ้านเพื่อติดตามอาการของลูกต่อไป