จากเหตุเหตุมีผู้พบศพสตรีและเด็กในรถกระบะที่ลุกไหม้ ในซอยร้าง ริมถนนพระราม 2 ในพื้นที่ตำบลนาดี อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อคืนวันที่ 26 กันยายน ซึ่งภายในพบผู้เสียชีวิต 2 ศพ คือนางอรวรรณ รัตนะ อายุ 37 ปี กับด.ญ.ทิพย์อักษร รัตนะ อายุ 11 ปี ซึ่งทั้ง 2 คน เป็นแม่ลูกกัน สภาพศพไหม้เกรียม และมีร่องรอยคล้ายถูกแทงด้วยของมีคมหลายแห่ง แต่ไม่พบผู้ขับขี่ คือนายราเมศ รัตนะ อายุ 37 ปี สามีของนางอรวรรณ และเป็นพ่อของเด็กหญิงทิพย์อักษร
โดยวันนี้ พ.ต.อ. จำแรง สุดใจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ตามที่ได้รับแจ้งจากพี่สาวของนายราเมศ ที่จังหวัดสมุทรปราการ ว่า นายราเมศ เข้ามาขโมยรถจักรยานยนต์ที่บ้านแล้วขับหายหนีไปเมื่อวานนี้ และไปแจ้งความที่ สภ.สมุทรสาคร ไว้แล้วนั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ในเบื้องต้น นายราเมศอาจลงมือสังหารภรรยากับลูกก่อน แล้วจึงมาขโมยรถจักรยานยนต์ของพี่สาว จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามหาข่าว และได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกพื้นที่ จนได้รับแจ้งจากสถานีตำรวจภูธรชุมพร ว่าพบผู้ต้องสงสัยอยู่ในพื้นที่ จึงได้ประสานให้เจ้าหน้าที่จากตำรวจสภ.สมุทรสาคร ร่วมกับตำรวจของ สภ.ชุมพร เข้าควบคุมตัวที่จังหวัดชุมพร ในช่วงสายของวันนี้ และโดยขณะนี้นายราเมศ ก็ได้ให้การรับสารภาพในเบื้องต้น ว่าเป็นผู้ที่ลงมือก็เหตุจริง โดยบอกว่า ขณะนั้นตนเดินทางมากับนางอรวรรณ และด.ญ.ทิพย์อักษร เพื่อที่จะมาหาพี่สาวที่สมุทรสาคร และเมื่อถึงระหว่างทางก็รู้สึกง่วงและจะจอดรถนอน แต่นางอรวรรณ ไม่ยอม จึงมีปากเสียงกันและได้เอามีดแทงนางอรวรรณ แต่ด.ญ.ทิพย์อักษร เข้ามาห้ามและพลาดไปแทงโดนด้วยจึงเป็นเหตุที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ พ.ต.อ. จำแรง เปิดเผยอีกว่า ขณะนี้กำลังนำตัวนายราเมศมาสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร ซึ่งคาดว่าจะเดินทางมาถึงในช่วงเวลา 15.00-16.00น. และจะเริ่มสอบสวน
ด้าน พล.ต.ต สุทธินาท สุดยอด ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดชุมพร เพิ่มเติมว่า เมื่อคืนนี้มีพลเมืองดี โทรแจ้งที่ 191 ของอ.เมือง จ.ชุมพร ว่าพบบุคคลต้องสงสัยกำลังเดินเปิดประตูรถที่จอดอยู่หลายคัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกมาสอบถาม และค้นตัว พบที่หน้าท้องมีรอยขีดข่วน จึงถ่ายรูปเพื่อทำประวัติเก็บไว้ แต่ผู้ต้องสงสัยวิ่งหนีกระโดดลงน้ำ และเมื่อช่วงเช้านี้มีพลเมืองดีแจ้ง 191 อีกครั้งว่าพบบุคคลต้องสงสัย ที่วัดทับขวาง มาขโมยเสื้อผ้าที่วัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไปตรวจสอบ และนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมือง ซึ่งจากการตรวจสอบชื่อ และค้นประวัติทำให้ทราบว่าเพิ่งก่อเหตุมา จึงควบคุมตัวไว้ และแจ้งไปที่ จ.สมุทรสาคร
ทั้งนี้ พล.ต.ต.สุทธินาท เปิดเผยว่า คนร้ายรับสารภาพว่าอาศัยอยู่ในจังหวัดชุมพร แต่ต้องการเดินทางไปพบที่สาว ที่จ.ฉะเชิงเทรา แต่ไม่มีเงินค่าน้ำมันรถ จึงอาโทรศัพท์มือถือของลูกไปขายในราคา 2,000 บาททำให้ทะเลาะกับแฟน ทั้งสารภาพว่า เคยเสพยาเมื่อ 1 เดือนก่อน
...