การเปิดงานสัมมนาและแสดงนิทรรศการนานาชาติ “Digital Thailand Big Bang 2018 : โลกเปิด เราปรับ ประเทศเปลี่ยน : Thailand Big Data” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงาน พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ Big Data เพื่อการพัฒนาประเทศ ระบุว่า รัฐบาลได้ตระหนักถึงความจำเป็นที่ประเทศไทยต้องนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ เทคโนโลยีดิจิทัล เป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ให้สัมฤทธิ์ผล สามารถตอบปัญหาความท้าทายที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม โดยการวางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และยังเชื่อมโยงกับประเทศอื่นๆ ต้องสร้างการเจริญเติบโตและแข็งแกร่งไปด้วยกัน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ดังนั้น เมื่อมีการพัฒนาด้านดิจิทัล ก็จะต้องมีการพิจารณาให้ดีและดูว่าผู้รับบริการจะตามทันและมีขีดความสามารถเพียงพอหรือไม่ เพื่อให้สอดคล้องกันเช่นเดียวกับบัตรสวัสดิการของผู้มีรายได้น้อย
นอกจากนี้ ยังมีภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ที่ทั่วโลกต้องให้ความสำคัญ ขณะเดียวกัน ต้องไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น และต้องไม่ใช้ดิจิทัลหรือ Social ในทางที่ผิด เพราะถึงแม้ปัจจุบันจะมี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่ก็มีการทำผิดกฎหมายและละเมิดสิทธิมนุษยชน ดังนั้น จะต้องไม่ก้าวล่วงซึ่งกันและกัน ไม่ใช่บอกว่าทำเพราะว่าไม่รู้แล้วไม่ผิด และคนที่รู้แต่ทำ กลับบอกถูกรังแก ประเทศชาติ หาความสงบสุขไม่ได้ พร้อมกล่าวว่า ทั่วโลกประสบปัญหาเรื่องคุกคามด้านไซเบอร์ ไม่ใช่เป็นเพราะประเทศไทยอย่างเดียวเท่านั้น เราจึงต้องมีมาตรการป้องกันภัยด้านไซเบอร์ มีการติดตามสืบสวน สอบสวน เพราะมีการหลอกลวงในโซเชียลมีเดีย ซึ่งรัฐบาลเองได้ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจัง สามารถจับกุมผู้ที่ละเมิดในส่วนนี้มาดำเนินคดี นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ดิจิทัลมีทั้งข้อดี และข้อเสีย เช่นเดียวกับมนุษย์ที่มี 2 อย่างในตัว ซึ่งตนเองฟังมาว่าคนเรามีหมาป่าตัวที่ใจดี และ อีกตัวเป็นหมาป่าตัวที่ดุร้าย ขี้โกง จึงขอให้เลือกว่าตัวไหนจะชนะ เพราะถ้าไม่ซื่อสัตย์ คดโกง ตัวที่ร้ายจะมีมากกว่า นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ฟังแล้วก็มานั่งคิดว่าตนเองเป็นอย่างไร แต่ทุกอย่างที่ทำต้องมีกฎระเบียบ มีความจริงใจ ส่วนใครจะเห็นหรือไม่เห็นก็ช่าง
สำหรับการจัดงาน Digital Thailand Big Bang 2018 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Thailand Big Data เพื่ออนาคตข้างหน้าของเราทุกคน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-23 กันยายน 2561 ที่อิมแพค เมืองทองธานี ได้รับความร่วมมือจากภาครัฐและภาคเอกชนในประเทศกว่า 500 หน่วย จากนานาชาติ 12 ประเทศ เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาลต่อการผลักดันให้เกิดการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ของรัฐและเอกชน บริหารจัดการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมเศรษฐกิจและสังคมให้ทุกหน่วยงานได้เข้าถึงข้อมูลที่มีคุณภาพทันสมัยและสามารถนำนวัตกรรมมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเป็นรูปธรรม
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี