นักวิเคราะห์ มองว่า ปี 2573 ทั่วโลกจะผลิตยานยนต์ขับเคลื่อนระบบไฟฟ้าเพิ่มสูงถึง 60 ล้านคัน

แนวโน้มทิศทางของตลาดยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) เวทีสัมมนา PRISM Forum-Energy Transformation for Sustainability โดยกลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นายสิริ กาญจน์ศิริ นักวิเคราะห์จากบริษัท IHS Markit Automotive ยอมรับว่า ตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สำหรับยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า บางประเทศได้มีการวางแผน นโยบาย เพื่อแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ด้วยการนำยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้ามาใช้งานจริงในภาคอุตสาหกรรม ปัจจุบันยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าทั่วโลกมีประมาณ 5,500,000 คัน คาดการณ์ว่าภายในปี 2573 จะมีการผลิตยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าสูงถึง 60 ล้านคันทั่วโลก ซึ่งมีตลาดการผลิตที่ใหญ่ที่สุดคือประเทศจีน เพราะปัจจุบันประเทศจีน มียอดการผลิตยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า 1,200,000 คัน  แต่ภายในปี 2573 ประเทศจีนจะผลิตได้ถึง 26 ล้านคัน และอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยระบบไฟฟ้า จะเป็นอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนตลาดโลก ที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ตรงกันข้ามกับอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยน้ำมันที่จะเติบโตอย่างช้าๆ

ขณะที่ ในภูมิภาคอาเซียนปัจจุบันการผลิตยานยนต์ด้วยระบบไฟฟ้าอยู่ที่ 40,000 คัน มองว่าในปี 2573 จะสามารถผลิตได้ถึง 900,000 คัน  ประเทศไทย เป็นผู้นำประเทศหลักในตลาดอาเซียน ที่ขับเคลื่อนยานยนต์ด้วยระบบไฟฟ้า เนื่องจากมีความชัดเจนเรื่องนโยบายที่ให้ผู้ผลิตเข้ามาร่วมพัฒนายานยนต์ระบบไฟฟ้าภายในประเทศ โดยช่วงปี 2563 คาดการณ์ว่าอัตราการเติบโต จะสูงขึ้นร้อยละ 20 และสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม การจะผลักดันให้ตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ระบบไฟฟ้าได้ผล ต้องขึ้นอยู่กับ 4 ปัจจัย ประกอบด้วย เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า นโยบายประเทศและการบังคับใช้ แรงจูงใจต่อผู้บริโภค และความพร้อมของภาคอุตสาหกรรม

ส่วนในภาคเอกชนที่เป็นผู้ผลิตน้ำมันจะมีการปรับตัวอย่างไร เมื่อยานยนต์ด้วยระบบไฟฟ้าเติบโตขึ้น นายดรุณพร กมลภุส ผู้อำนวยการโครงการ Electric City Value Chain จากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) แสดงความเห็นว่า จะต้องมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อรับมือกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่เพียงแต่บริษัทที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันเท่านั้น ยังรวมไปถึงกระทรวงพลังงานที่จะต้องมีการบริหารจัดการเรื่องพลังงาน เพื่อให้ระบบไฟฟ้าสามารถนำมาจ่ายให้กับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าอย่างเพียงพอ และแม้ประเทศไทยจะเป็นประเทศเล็กๆ แต่ได้มีการวางแบบแผนการขับเคลื่อนยานยนต์ด้วยระบบไฟฟ้าไว้แล้ว ในอนาคตคือการทำให้อุตสาหกรรมนี้ขยายตัวในประเทศ และสามารถส่งออกนอกได้ด้วย

ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม