การจับกุมผู้ต้องค้ายาเสพติดรายสำคัญ ช่วงวันที่ 13-16 กันยายนนี้
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สำนักงานปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) และหน่วยที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม 3 คดี รวมผู้ต้องหา 13 คน และของกลาง ยาบ้ารวม 10 ล้านเม็ด เฮโรอีน 37 กิโลกรัม ไอซ์ 2.06 กิโลกรัม กัญชา 917 กิโลกรัม รถยนต์ 7 คัน โทรศัพท์มือถือ 24 เครื่อง รวมมูลค่าของกลางและทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้กว่า 2 พันล้านบาท
โดยคดีที่ 1 เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2561 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมเครือข่ายนายประวิทย์ แซ่ม้า กับพวกรวม 4 คน พร้อมของกลาง ยาบ้ารวม 10 ล้านเม็ด และเฮโรอีน น้ำหนักรวมประมาณ 37 กิโลกรัม โดยจับกุมได้บริเวณริมถนนสายเลี่ยงเมืองสุโขทัย-ตาก จังหวัดสุโขทัย ขณะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่จังหวัดเชียงรายไปส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยยาเสพติดบรรจุอยู่ภายในกระสอบซุกซ่อนอยู่ชั้นในของรถกระบะและ มีกระสอบบรรจุมูลไก่วางอำพรางไว้ด้านนอกอีกชั้นหนึ่ง จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ซุกซ่อนยาเสพติดปะปนมากับมูลไก่เพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่
เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกัน มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากนี้จะขยายผลการจับกุมต่อไป
คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2561 ตามโครงการ AITF ตำรวจจับกุม นายอีเมก้า จอห์น โอบิมมา และพวกรวม 3 คน พร้อมของกลาง ไอซ์ 2.06 กิโลกรัม กระเป๋าเอกสาร 1ใบ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และธนบัตรใบละ 100 ดอลล่าร์สหรัฐ 5 ใบ ได้ที่โรงแรมย่านสุขุมวิท
หลังสืบทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหานี้จะมารับยาเสพติดจากเครือข่ายชาวแอฟริกาในประเทศไทย เพื่อนำส่งให้ลูกค้าที่ประเทศนิวซีแลนด์
เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2561 สามารถจับกุมเครือข่ายนายธีระศักดิ์ แสนเสนาะ พร้อมของกลาง กัญชา 917 กิโลกรัม รถยนต์ 5 คัน มูลค่าประมาณ 4 ล้านบาท โทรศัพท์มือถือ 15 เครื่อง และเอกสารอื่นๆ หลังมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนจังหวัดบึงกาฬ ไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ โดยใช้เส้นทางจาก อำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ เข้าจังหวัดหนองคาย จังหวัดอุดรธานี จังหวัดขอนแก่น จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดสระบุรี กรุงเทพมหานคร จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปลายทาง จังหวัดสตูล เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าสังเกตการตามเส้นทางจนพบรถยนต์ของผู้ต้องหา 3 คันมาจนถึงบริเวณริมถนนมิตรภาพ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี จึงเข้าแสดงตัวจับกุมและค้นรถยนต์ทั้งหมด พบยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ท้ายรถกระบะ
เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต
ด้านพลตำรวจโทสมหมาย กล่าวว่า ผลการจับกุมครั้งนี้ ส่วนใหญ่แล้วยาเสพติดจะถูกส่งไปขายในประเทศที่สาม ผู้ลักลอบขนยาเสพติดก็ยังคงลักลอบอยู่ ไม่มีหยุด ดังนั้นตำรวจปราบปรามยาเสพติดของไทยจึงมีความร่วมมือกับตำรวจต่างประเทศ เพื่อทลายโรงงานผลิตยาเสพติดและสกัดกั้นการขนยา ซึ่งล่าสุดไทยร่วมกับมาเลเซีย เข้าทลายโรงงานผลิตที่เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย
ทั้งนี้ ฝากถึงผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดคนใหม่ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งหลังจากที่ตนเองเกษียณอายุราชการ ว่า ขอให้ช่วยกันขับเคลื่อน นโยบายกัญชารักษาโรคมะเร็งได้ต่อไป
...
ผสข.ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ