พิธีมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี พ.ศ. 2561 เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติให้แก่หน่วยงานที่ได้รางวัล โดยมุ่งหวังให้หน่วยงานต่างๆ ได้เดินหน้าพัฒนาคุณภาพการให้บริการ และระบบการบริหาร โดยกรมชลประทานเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ได้รับรางวัลในวันนี้ โดย นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เป็นตัวแทนมารับมอบรางวัล 4 รางวัล “เลิศรัฐ” จากสำนักงาน ก.พ.ร. โดยเป็นรางวัลดีเด่น 2 รางวัล และรางวัลชมเชยอีก 2 รางวัล นายทองเปลว เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ได้รับรางวัลดีเด่น 2 รางวัล เป็นรางวัลเปิดใจใกล้ชิดประชาชน : Open Governance ด้านการมีส่วนร่วมของกรมชลประทาน และรางวัลสัมฤทธิผลประชาชนมีส่วนร่วม : Effective Change โครงการอ่างเก็บน้ำ ดอยงู อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ในการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน และรางวัลชมเชยรางวัลผู้นำหุ้นส่วนความร่วมมือ : Engaged Citizen นายวันชัย แดงสวัสดิ์ การบริหารการใช้น้ำชลประทานมหาสวัสดิ์ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม และรางวัลผู้นำหุ้นส่วนความร่วมมือ : Engaged Citizenกลุ่มบริหารการใช้น้ำชลประทาน อ่างเก็บน้ำห้วยสงสัย ต.เขากระปุก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็น 4 รางวัลที่กรมชลประทานได้รับและสร้างความภาคภูมิใจให้แก่กรมชลประทานและผู้ใช้น้ำในการบริหารจัดการน้ำ
อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ปัจจัยความสำเร็จในครั้งนี้ คือภาคประชาชนเกษตรกรที่เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการน้ำ เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานที่มีการพัฒนาให้รู้เขารู้เรา และการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามามีส่วนร่วม โดยหลังจากนี้จะมีการพัฒนา ถ่ายทอด ต่อยอดเพื่อให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งคาดว่าปีหน้าและปีต่อๆไปกรมชลประทานจะได้รับรางวัลมากกว่านี้
สำหรับสถานการณ์น้ำในขณะนี้ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ซุปเปอร์ไต้ฝุ่นมังคุดที่จะเข้ามาในวันที่ 16-17 กันยายน ในแถวภาคเหนือของเวียดนามและลาว ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงกับประเทศไทย แต่จะยังคงทำให้ประเทศไทยมีปริมาณฝนมากขึ้นในวันที่ 16-18 และ ต่อเนื่องถึงวันที่ 19 กันยายน ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่ดีเนื่องจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษและบุรีรัมย์ซึ่งมีน้ำน้อย และอ่างเก็บน้ำยังคงมีพื้นที่เหลือมากเพียงพอในการรับน้ำ
ส่วนพื้นที่สุ่มเสี่ยงหรือพื้นที่ลุ่มต่ำ กรมชลประทานได้วางกำลังกระจายเรื่องสูบน้ำ ผลักดันน้ำ เพื่อไปสนับสนุนโดยเฉพาะในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ซึ่งเป็นการเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ในทุกพื้นที่ทั้งพื้นที่ภาคตะวันออก ด้านจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ภาคตะวันตกแก่งกระจานเพชรบุรี และพื้นที่อื่น ๆ จึงอยากให้ประชาชนมั่นใจว่าภาครัฐได้มีการเตรียมพร้อมในการรับมือสถานการณ์ได้อย่างเต็มที่