หลังการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(กนช.) ครั้งที่ 3/2561 มี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาโครงการขนาดใหญ่ แก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งในปี 2562 จำนวน 11โครงการ รวมวงเงินทั้งสิ้นประมาณ 73,679 ล้านบาท ระยะที่ 1 จำนวน 4 โครงการซึ่งผ่านการพิจารณาของที่ประชุมแล้ว ประกอบด้วย โครงการประตูระบายน้ำศรีสองรัก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เลย โครงการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยหลวงตอนล่าง จ.หนองคาย โครงการอ่างเก็บน้ำลำน้ำชี จ.ชัยภูมิ และโครงการบรรเทาอุทกภัย เมืองชัยภูมิ ส่วนในระยะที่ 2 อีก 7 โครงการ ที่เร่งด่วนและมีความพร้อมที่จะดำเนินการ ระยะต่อไป คือ โครงการอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองแสนแสบ โครงการอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองทวีวัฒนา โครงการประตูระบายลำน้ำพุง-น้ำก่ำ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการประตูระบายน้ำบ้านก่อพร้อมระบบส่งน้ำ จ.สกลนคร โครงการคลองระบายน้ำหลาก บางบาล-บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา และโครงการอ่างเก็บน้ำลำสะพุง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ชัยภูมิ
ด้านพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การบริหารจัดการน้ำ (พ.ศ.2557 -2562 ) แบ่งเป็น 6 ยุทธศาสตร์ เช่น การจัดหาน้ำอุปโภคบริโภค เพื่อให้ทุกหมู่บ้านและชุมชนเมืองมีน้ำสะอาด เพื่ออุปโภคบริโภคโดยดำเนินการจัดหาน้ำให้กับหมู่บ้านที่ไม่มีระบบประปาไปแล้ว 7,291 หมู่บ้าน ขยายเขตประปาเมืองได้ 78 แห่ง การจัดการน้ำท่วมและอุทกภัย เพื่อให้พื้นที่ชุมชน พื้นที่เศรษฐกิจสำคัญและพื้นที่เกษตรได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมน้อยที่สุด
ขณะที่ความก้าวหน้าการปรับปรุงแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ได้ปรับปรุงแผนยุทธศาสตร์ชาติจาก 12 ปี (พ.ศ.2557 -2562) เป็น 20ปี (พ.ศ.2557 -2569) เพื่อให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยขยายเขตระบบประปา เพิ่มประสิทธิภาพ 20,034 หมู่บ้าน เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำปรับปรุงสิ่งกีดขวางทางน้ำ 562 แห่ง เพิ่มพื้นที่ป้องกันอุทกภัยในชุมชนเมือง 764 แห่ง เพิ่มประสิทธิภาพการบำบัดน้ำเสีย 105 แห่ง รักษาสมดุลของระบบนิเวศ 13 ลุ่มน้ำและจัดทำแผนบริหารจัดการน้ำเป็นสภาวะปกติ สภาวะวิกฤตพร้อมทั้งร่วมมือดำเนินงานด้านน้ำกับต่างประเทศ ยืนยันว่า รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ตามกรอบของกฎหมาย รวมถึงแก้ไขปัญหาในระยะกลางและระยะยาว เพื่อตอบสนองกับความต้องการของประชาชนด้วย