ทันสถานการณ์โลก วันที่ 14 กันยายน 2561

ซุปเปอร์ไต้ฝุ่นมังคุดเคลื่อนตัวเข้าใกล้ภาคเหนือของฟิลิปปินส์ โดยคาดว่าขึ้นฝั่งเกาะลูซอน ในวันเสาร์นี้ ด้วยความเร็วลมสูงถึง 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือเท่ากับเฮอร์ริเคนระดับ 5 และจะเป็นพายุที่มีความรุนแรงที่สุดของปีนี้ รุนแรงมากกว่าเฮอร์ริเคนฟลอเรนซ์ ที่จะขึ้นฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ในเช้าวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น

โดยซุปเปอร์ไต้ฝุ่นมังคุดเคลื่อนตัวพัดผ่านเกาะกวมและหมู่เกาะมาร์สแชลล์ ในมหาสมุทรแปซิฟิกแล้ว ส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก มีน้ำท่วมฉับพลัน ไฟฟ้าดับ ขณะที่เกาะลูซอนที่พายุจะเคลื่อนตัวผ่านนั้นมีประชาชนอาศัยอยู่มากถึง 10 ล้านคนจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมอพยพ และช่วยเหลือผู้ประสบภัย โรงเรียน ธุรกิจและหน่วยงานราชการหลายแห่งต้องหยุดทำการเพื่อลดความสูญเสีย

และเมื่อพายุเคลื่อนที่ผ่านเกาะลูซอนไปแล้ว พายุจะมุ่งหน้าต่อไปยังจีน ซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นบริเวณชายฝั่งเช่นกัน ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงเตรียมความพร้อมรับมือกับพายุไต้ฝุ่นมังคุดซึ่งคาดว่าจะเป็นพายุที่มีความรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ที่มีการบันทึกสถิติในฮ่องกง และจะเป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 2 ที่จะเคลื่อนที่เข้าสู่ฮ่องกงในสัปดาห์นี้

ส่วนพายุฟลอเรนซ์ ขึ้นฝั่งที่รัฐนอร์ท แคโรไลนา และเซาท์ แคโรไลนาด้วยระดับความรุนแรงที่ลดลงจนกลายมาเป็นพายุระดับ 2 แต่ทางการสหรัฐฯ ยังคงเตือนอันตราย และขอให้ประชาชนย้ายไปอยู่ในที่พักชั่วคราว เนื่องจากสนามลมของพายุแผ่กว้างออกไปและยังมีอันตราย ทำให้ฝนตกหนักครอบคลุมพื้นที่กว้างกว่าเดิม และมีคลื่นพายุซัดฝั่งสูง 4 เมตร แต่ทางองค์การอุตุนิยมวิทยาโลกในนครเจนีวาคาดว่า พายุฟลอเรนซ์อาจทำให้เกิดคลื่นพายุซัดฝั่งสูงถึง 6 เมตร

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อให้มีการจับตาความพยายามจากภายนอกที่ต้องการแทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐฯ โดยให้เวลาหน่วยงานที่รับผิดชอบ 90 วัน เพื่อประเมินและจัดทำรายงาน แต่ให้อำนาจประธานาธิบดีในการตัดสินใจเลือกใช้วิธีการในการตอบโต้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง

นายแดน โคตส์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ กล่าวว่าการเลือกตั้งเมื่อปี 2559 ถือเป็นบทเรียนสำคัญ สำหรับการเลือกตั้งกลางเทอมในวันที่ 6 พฤศจิกายน นี้ และการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อไปในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 โดยกลุ่มประเทศที่สหรัฐฯเฝ้าจับตา ได้แก่ รัสเซีย จีน เกาหลีเหนือ และอิหร่าน  

กองทัพอากาศสหรัฐฯ ส่งเครื่องบินรบรุ่นล่าสุด เอฟ-22 แร็พเตอร์ 2 ลำ บินขับไล่เครื่องบินทิ้งระเบิดนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์ของกองทัพอากาศรัสเซียรุ่น ทียู-95 บอมเบอร์ 2 ลำ ซึ่งเข้ามาใกล้น่านฟ้าทางตะวันตกของรัฐอะแลสกาของสหรัฐฯ ซึ่งเกิดขึ้นครั้งที่สองแล้ว ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่เครื่องบินทิ้งระเบิดรัสเซียเข้ามาใกล้น่านฟ้า โดยครั้งนั้นไม่มีเครื่องบินขับไล่ของรัสเซียบินคุ้มกันมาด้วย แต่ครั้งนี้ มีเครื่องบินขับไล่รุ่น เอสยู-35 แฟลงเกอร์ ของรัสเซียอีก 2 ลำบินคุ้มกันมาด้วย

ส่วนข้อพิพาททางการค้า คณะทำงานของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกายื่นข้อเสนอต่อจีนให้มีการเจรจาทางการค้ารอบใหม่ ในขณะที่สหรัฐเตรียมที่จะบังคับใช้กำแพงภาษีลงโทษมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ต่อสินค้านำเข้าจากจีน โดยนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯเพิ่งจะส่งจดหมายเชิญนายลิ่ว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน เพื่อขอให้มีการหารือแบบทวิภาคีรอบใหม่ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯและจีนมีการประชุมเมื่อวันที่ 22-23 สิงหาคม แต่ไม่มีข้อตกลงใดๆ ออกมา

นายเกิง ชวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า จีนยินดีตอบรับคำเชิญเจรจาการค้ารอบใหม่ โดยทั้งสองฝ่ายกำลังหารือกันเกี่ยวกับรายละเอียดของการจัดการประชุม ทั้งนี้จีนตระหนักว่าความขัดแย้งทางการค้าไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อฝ่ายใด

นายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวว่า การดำเนินการแต่เพียงฝ่ายเดียวของสหรัฐฯในการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมไม่สามารถแก้ไขปัญหาการขาดดุลการค้า เพราะการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของตัวเลขเกินดุลหรือขาดดุลการค้าเกิดจากกลไกตลาด โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ จีนเกินดุลการค้ากับสหรัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.7 สู่ระดับ 1 แสน 8 หมื่น 1 พันล้านดอลลาร์  ขณะที่การส่งออกของจีนไปยังสหรัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.5

ญี่ปุ่นและเวียดนามเรียกร้องให้สหรัฐฯกลับมาร่วมในข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ทีพีพี) ซึ่งสหรัฐฯถอนตัวออกจากกลุ่มไปประมาณ 2 ปีก่อน โดยรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น เห็นว่าทีพีพียังคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสหรัฐฯ

ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลงเมื่อทบวงพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) เผยแพร่รายงานว่าโอเปกมีกำลังผลิตรายวันในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อชดเชยกำลังการผลิตของอิหร่านที่หายไป

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 1.78 ดอลลาร์ ปิดที่ 68.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1.56 ดอลลาร์ ปิดที่ 78.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 147.07 จุด หรือร้อยละ 0.57 ปิดที่ 26,154.99 จุด

เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 15.26 จุด หรือร้อยละ 0.53 ปิดที่ 2,904.18 จุด

แนสแดค เพิ่มขึ้น 59.48 จุด หรือร้อยละ 0.75 ปิดที่ 8,013.71 จุด

….