นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พานางมานิตย์ เต็มปักษี เดินทางจากจังหวัดบุรีรัมย์ มาที่กองปราบปราม เพื่อร้องขอความเป็นธรรม ต่อพลตำรวจตรีไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับนายเอ (นามสมมุติ) ลูกเขยอายุ15 ปี หลังลูกเขยกล่าวหาและแจ้งความดำเนินคดีว่านางมานิตย์ ยักยอกสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่1 หมายเลข 412073 จำนวน 2 ใบ มูลค่า12 ล้านบาท งวดประจำวันที่1เมษายน 2561
นางมานิตย์ เปิดเผยว่า ก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้น นายเออ้างว่าได้ไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกับนางสาวบี อายุ14 ปี ลูกสาวของตนเอง พร้อมกับสลักชื่อไว้ด้านหลัง และนำมาฝากเอาไว้กับตนเอง ยืนยันไม่เคยรับฝากสลากกินแบ่งรัฐบาลจากนายเอ ซึ่งลูกสาวและนายเอไม่เคยติดต่อมาขอเจรจา เพราะลูกสาวหนีไปอยู่กับนายเอตั้งแต่ก่อนเกิดเรื่องแล้ว แต่ยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยมีปัญหากับนายเอ เพราะอยากให้มาสู่ขอลูกสาวตามประเพณี แต่นายเอบ่ายเบี่ยงมาตลอด จึงเชื่อว่าเป็นสาเหตุให้มาแจ้งความดำเนินคดีกับตนเอง วันนี้จึงจะมาแจ้งความดำเนินคดีกับนายเอในข้อหา แจ้งความเท็จ ฟ้องเท็จ เบิกความเท็จ และอาจจะแจ้งความคดีพรากผู้เยาว์ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาขณะต่อสู้คดีรู้สึกเครียด กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะกลัวว่าจะถูกทำร้าย
ด้านนายรณณรงค์ กล่าวว่า คดีนี้นายเอ พร้อมด้วยมารดาได้ไปแจ้งให้ดำเนินคดีกับนางมานิตย์ไว้ที่สภ.หนองหงษ์ จังหวัดบุรีรัมย์ และ สภ.ห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา รวมถึงฟ้องศาลจังหวัดนางรองด้วย ต่อมาตนเองเข้ามาดูแลคดีนี้ จนกระทั่งศาลมีคำพิพากษายกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง เนื่องจากมีการตรวจสอบกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลถึงสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่1ชุดดังกล่าว ได้มีคนนำไปขอขึ้นเงิน โดยที่ชื่อสลักด้านหลังไม่ใช่ชื่อของนายเอและไม่ใช่ชื่อนางมานิตย์หรือคนในครอบครัว ทั้งที่ นายเอ กล่าวอ้างว่าได้สลักชื่อไว้ด้านหลัง ส่วนที่วันนี้พานางมานิตย์เข้ามาร้องที่กองปราบปราม เนื่องจาก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเคยให้อำนาจกองปราบปรามในการดูแลคดีที่เกี่ยวข้องกับการยักยอกสลากกินแบ่งรัฐบาลรวมถึงอยากให้คดีเกิดความยุติธรรมด้วย
ผู้สื่อข่าว: ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ