หลังเกิดเหตุรถฟอร์จูนเนอร์วิ่งไหล่ทางชนรถยนต์ที่จอดเสียบนทางด่วน จนทำให้เจ้าของรถยนต์ตกจากทางด่วนลงมาเสียชีวิต พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รองผบช.น.) เปิดเผยว่า ได้หารือกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) แล้ว มีข้อเสนอร่วมกันในเบื้องต้นว่าให้กทพ.ไปพิจารณาอนุญาตให้ใช้ไหล่ทางเป็นทางสัญจรได้เฉพาะชั่วโมงเร่งด่วน เพื่อแก้ปัญหารถติด แต่ในชั่วโมงปกติห้ามใช้ โดยอาจมีการทำสัญลักษณ์ไฟให้ผู้ใช้ถนนรับรู้ว่าจะวิ่งไหล่ทางได้ในช่วงใด ยอมรับว่า ที่ผ่านมามีการวิ่งไหล่ทางกันจนเป็นเรื่องปกติที่คิดว่าทำได้ ทั้งที่มีไว้เฉพาะรถฉุกเฉินและรถพยาบาลวิ่ง เมื่อมาวิ่งไหล่ทางก็ส่งผลให้รถฉุกเฉินไปส่งผู้บาดเจ็บไม่ได้ ดังนั้น ต้องหาทางประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจการใช้ไหล่ทางที่ถูกต้อง เพราะตำรวจเองก็ไม่ต้องการนำกฎหมายมาบังคับใช้อย่างเข้มงวด
ส่วนการแก้ไขปัญหาการจราจรตามเส้นทางต่างๆที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้า เริ่มที่ถนนลาดพร้าวขณะนี้ได้ย้ายป้ายรถเมล์ 10 ป้ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเปิดใช้เกาะกลางซอยรัชดาภิเษก 32 ได้แล้ว การเคลื่อนตัวของรถเป็นไปด้วยดี แต่กำลังเร่งให้ผู้รับงานทำสัญญาณไฟจราจรบริเวณดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 กันยายนนี้ ส่วนถนนรามคำแหงได้ข้อสรุปว่าอนาคตจะให้ประชาชนนำรถไปจอดไว้ที่ห้างสรรพสินค้าพาสิโอและห้างย่างมีนบุรี แล้วจะนำรถตู้ตำรวจจำนวน 11 คันมารับ-ส่งประชาชนก่อน จากนั้นจะนำรถ Shuttle Bus มาร่วมวิ่งด้วย โดยประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากประชาชนให้จอดรถไว้ที่ดังกล่าว เพื่อแก้ปัญหารถติด คาดว่าสัปดาห์หน้าเรื่องนี้จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนขึ้น
ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร