การลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานนโยบายรัฐบาลที่ จ.ลพบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมาที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์ พบปะกับประชาชนชาวจังหวัดลพบุรี พร้อมกล่าวด้วยว่า วันนี้ได้มาลพบุรีแล้วรู้สึกอบอุ่นใจ ที่ได้มาเยือนสถานที่ประวัติศาสตร์ เพราะตนเองก็เป็นคนลพบุรีเพราะเรียนที่นี่จนจบ มศ.1แต่เกิดที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งลพบุรีถือเป็นดินแดนแห่งวัฒนธรรม เป็นเมืองทหารที่มีความปลอดภัยจากศึกสงคราม แต่อย่างไรประเทศก็ต้องเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยที่ต้องลดความขัดแย้ง ซึ่งเมื่อคืนก็รู้สึกตื่นเต้น ที่ได้กลับมาบ้านเก่าที่เคยวิ่งเล่น และพูดกับพ่อว่า เป็นรัฐบาลจะทำให้ใครจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งไม่ได้ ต้องทำให้คนทั้งประเทศและดูแลทุกกลุ่มจังหวัด พร้อมกล่าวด้วยว่า ขออย่าไปเชื่อใครที่บอกว่าไม่ต้องมีทหาร เพราะทหารยังคงมีหน้าที่รักษาอธิปไตย
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า แม้ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ จีดีพีจะดี แต่ตราบใดที่มีคนที่มีรายได้ต่ำ ก็ต้องทำให้ทุกคนเข้าถึงโอกาสในการเข้าถึงการบริการของรัฐ โครงสร้างพื้นฐาน การสาธารณสุข พร้อมระบุเหตุผลที่ต้องมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐว่าไม่ใช่การแยกชนชั้น แต่แยกเพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าจะช่วยเหลืออย่างไร ซึ่งถือเป็นการใช้งบประมาณที่ถูกต้อง และที่สำคัญต้องไม่ให้เกิดการทุจริต โดยเฉพาะในรัฐบาลนี้ ซึ่งหากพบขอให้แจ้งเข้ามา
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า จากนี้ต้องสร้างหลักคิดใหม่ ให้เกษตร อุตสาหกรรม ท่องเที่ยว พัฒนาให้มากขึ้น ให้เกิดความเชื่อมโยง และขอให้คิดแบบ 4.0 หรือคิดไปข้างหน้าอย่าติดกับดักประชาธิปไตย หรือกับดักรายได้ปานกลาง เพราะเราเสียเวลาเป็น 10 ปีกับความขัดแย้ง ซึ่งรัฐบาลนี้จะต้องแก้ปัญหาและสามารถลงพื้นที่ได้ทุกที่ แม้ประชาชนจะชอบไม่ชอบ นายกรัฐมนตรีระบุว่า ก็จะมา และหากยิ่งเกลียดก็จะยิ่งมาเพราะรัฐบาลต้องดูแลทุกคน พร้อมย้ำด้วยว่ายุทธศาสตร์ชาติไม่ใช่การสืบทอดอำนาจ
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ระวังโซเชี่ยลที่มีข้อความ ที่สร้างความเกลียดชัง ขออย่าเชื่อ ขออย่าตัดสินไปก่อน และทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย พร้อมระบุด้วยว่า วันนี้ทุกจังหวัดได้งบประมาณ นายกรัฐมนตรีไม่ได้มาจากพรรคไหน และทุกจังหวัดเป็นพรรคของรัฐบาล
นายกรัฐมนตรีย้ำด้วยว่าวันนี้ไม่ได้มาหาเสียง และการเมืองจะต้องไม่ทำให้ประเทศถอยหลัง โดยขอให้ประชาชนที่ร่วมรับฟังยกมือสัญญาว่าจะทำให้การเมืองดีขึ้น เลือกคนดี ได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล ซึ่งรัฐบาลต้องทำเพื่อคนทั้งประเทศไม่ใช่เฉพาะเสียงส่วนใหญ่ และอย่าให้ระบบประชาธิปไตยคัดกรองคนที่แบ่งแยกภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้เข้ามา
หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินทักทายพูดคุยและร่วมถ่ายภาพกับประชาชน มอบโฉนดที่ดินคืนให้ประชาชนที่ได้จากโครงการ แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน พร้อมเยี่ยมชมโบราณสถานที่ลานวัฒนธรรมในพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ก่อนจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการ บ้านสุขภาวะผู้ป่วยเรื้อรังและผู้สูงอายุ ที่เทศบาลตำบลเขาพระงาม อำเภอเมืองลพบุรีต่อไป