สรุปข่าวค่ำ ประจำวันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน 2561

สรุปข่าวค่ำ ประจำวันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน 2561

+++สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) มีมติเอกฉันท์ 180 ต่อ 0 เสียงงดออกเสียง 3 เสียง ผ่าน พ.ร.บ.เอกสิทธิ์และความคุ้มกันสำหรับองค์การระหว่างประเทศ และการประชุมระหว่างประเทศในประเทศไทย พ.ศ. …. เป็นกฎหมายต่อไป นายกิตติ วะสีนนท์ สนช.กล่าวภายหลังว่า ถือเป็นร่างกฎหมายที่ใช้เวลายกร่างและปรับแก้มากว่า 3 ปี โดยคณะกรรมาธิการต่างประเทศ สนช.ได้เล็งเห็นนโยบายของรัฐบาล ที่จะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางในด้านองค์การระหว่างประเทศและด้านอื่นๆ เพื่อจัดตั้งสำนักงานขององค์การระหว่างประเทศ และการให้มีการประชุมระหว่างในประเทศไทย ทั้งประชุมภาครัฐและเอกชน เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นนครเจนีวาแห่งที่ 2 หรือนครเจนีวาแห่งเอเชีย ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งทางตรงและอ้อมแก่ประเทศในหลายด้าน โดยเฉพาะบทบาทและผลประโยชน์ในเวทีระหว่างประเทศ กฎหมายฉบับนี้ ยังออกมารองรับก่อนที่รัฐบาลไทยจะถึงวงรอบเป็นประธานอาเซียน รวมไปถึงรัฐสภาไทย โดยประธาน สนช.ที่จะดำรงตำแหน่งเป็นประธานสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) ในปี 2562 พร้อมกันด้วย

+++ความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.7 ที่เกาะฮอกไกโดทางภาคเหนือของญี่ปุ่นเมื่อเวลา 3:08 น. ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น มีคนเสียชีวิต 8 ศพและมีคนบาดเจ็บ 140 คนและมีผู้สูญหายอีก 30 คน บรรษัทกระจายเสียงเอ็นเอชเคของญี่ปุ่นรายงานว่าเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจทั่วทั้งเกาะฮอกไกโด บริษัทหลายแห่งต้องหยุดการผลิต หยุดให้บริการชั่วคราวและปิดสำนักงานย่อยชั่วคราว

+++ด้านบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น เปิดเผยว่าบริษัทย่อยที่เมืองเมืองโทมาโกไมปิดทำการชั่วคราวหลังกระแสไฟฟ้าดับ เพิ่มเติมว่าแม้ว่าจะมีระบบไฟฟ้าสำรอง แต่ไม่อาจจะจ่ายกระแสไฟฟ้าในโรงงานได้เป็นเวลานานๆ ด้านบริษัทนิปปอนสตีล แอนด์ ซูมิโตโม เมทัล หยุดการผลิตเหล็กของโรงงานใน เมืองมูโรรัง ขณะที่คนงานอยู่ระหว่างตรวจสอบสภาพโรงงานว่าเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวหรือไม่ ส่วนโรงงานแห่งหนึ่งของบริษัทมิตซูบิชิ สตีล แมนูแฟคเจอริ่งในเมืองมูโรรัง ปิดทำการในวันนี้หลังเกิดไฟไหม้ แต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ทำการดับไฟเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ตลาดหุ้นของเมืองซัปโปโรปิดการซื้อขายในวันนี้หลังไฟฟ้าดับ

+++สำหรับการบริการของธนาคารส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน โดยเฉพาะเจแปน โพสต์ แบงค์และธนาคารรายใหญ่อื่นๆหลายแห่งเปิดเผยว่าสาขาย่อยหลายแห่งปิดให้บริการ ขณะที่ตู้เอทีเอ็มหลายแห่งก็ใช้งานไม่ได้เช่นกัน ขณะเดียวกันระบบโทรศัพท์มือถือไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติในบางท้องที่ ขณะที่ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น กว่า 1,000 สาขาหยุดให้บริการหลังไฟฟ้าดับ แต่มีเพียงไม่กี่สาขาที่ยังเปิดให้บริการตามปกติ

+++รายงานข่าวจากบริษัทการบินไทยจำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง ที่ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ได้ส่งผลกระทบทำให้อาคารผู้โดยสาร ของสนามบินชิโตเซะ เสียหายรุนแรงจนไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ดังนั้นการบินไทยจึงได้ประกาศยกเลิกเที่ยวบิน จำนวน2เที่ยวบิน ประกอบด้วย TG670 เส้นทาง กรุงเทพฯ-ซัปโปโร ที่มีกำหนดออกเดินทางจากไทย เวลา 23.45น. ของวันที่ 6 ก.ย. ถึงซัปโปโร ในเวลา 08.30น.ของวันที่ 7ก.ย. และ เที่ยวบิน TG671 เส้นทาง ซัปโปโร-กรุงเทพฯที่มีกำหนดออกเดินทางจาก ซัปโปโรเวลา 10.30น.ของวันที่ 7ก.ย. ถึงไทยเวลา 15.30น.ของวันเดียวกัน

+++การตรวจสอบปมนาฬิกาหรู นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการประสานขอเลขหมายประจำเครื่อง หรือซีเรียลนัมเบอร์ บริษัทผู้ผลิตในต่างประเทศ คาดว่าจะได้ความชัดเจนในเดือนตุลาคมนี้

+++ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบปมหนี้สิน 300 ล้านบาทของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.หรือไม่ นายวรวิทย์ กล่าวว่า หลังเรียก พล.ต.อ.สมยศ ชี้แจงข้อกล่าวหาแล้ว คณะกรรมการฯ อยู่ระหว่างการรวบรวมสำนวนและพิจารณาว่าจะต้องเชิญตัวบุคคลอื่นเข้าชี้แจงเพิ่มเติมหรือไม่ ขอยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ หรือสองมาตรฐานในการตรวจสอบสำนวนคดี

+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานและร่วมรับฟังการแถลงแนวทางการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนด้วยยุทธศาสตร์ชาติของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร วิทยาลัยเสนาธิการทหาร วิทยาลัยการทัพของทั้งสามเหล่าทัพประจำปีการศึกษา 2561 คณะนักศึกษาฯ ได้เสนอแนวทางยุทธศาสตร์เฉพาะ 6 ด้าน พร้อมทั้งเสนอแนวทางการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม เป็นข้อเสนอแนะที่คณะนักศึกษาบูรณาการยุทธศาสตร์ทั้ง 6 ด้านเข้าด้วยกัน เพื่อให้มีพลังในเชิงผลลัพธ์ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีความมั่นคง มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมที่ลดความเหลื่อมล้ำ ไม่ทิ้งภาคส่วนใดไว้ข้างหลัง พ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างยั่งยืนตลอดไป

+++นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การนำเสนอของนักศึกษามีความครอบคลุมทุกมิติที่รัฐบาลทำงานอยู่  ถือเป็นประวัติศาสตร์ที่มีการวางยุทธศาสตร์ชาติ จากนี้คือเดินหน้าตามหัวข้อยุทธศาสตร์ ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับการปฏิบัติ และเมื่อมียุทธศาสตร์ชาติแล้ว ต้องมีแผนแม่บทนำไปสู่แผนงานของแต่ละกระทรวง ซึ่งตนเองได้ให้แนวทางและนโยบายมาตลอด 4 ปี ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์ชาติเปรียบเสมือนเส้นทางให้ทุกคนเดินไป ขณะที่ทุกวันนี้โลกเข้าสู่การเปลี่ยนแปลง ไทยต้องเดินหน้าไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 และต้องสร้างระบบให้เข็มแข็ง นำประเทศไปสู่การเปลี่ยนแปลงให้ทันกับประเทศอื่น ๆ  ต้องไม่ทำให้เกิดความขัดแย้ง เพื่อเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย มีรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลในอนาคต รัฐบาลไม่ได้แบ่งแยกคนจากฐานะ ทุกคนมีศักดิ์ศรีความเท่าเทียมกัน โดยมุ่งดูแลผู้ที่มีรายได้น้อยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น ด้วยการกระจายงบประมาณให้เหมาะสม ดูแลทุกพื้นที่และเน้นสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานให้เกิดความเท่าเทียม

+++อย่างไรก็ตาม ประเทศยังมีปัญหาบางอย่างติดขัด จึงต้องใช้อำนาจตามมาตรา 44 ยืนยันว่าไม่ได้ใช้คำสั่งเพื่อเอื้อประโยชน์หรือต่อท่ออำนาจให้ใคร ขอบางกลุ่มอย่าบิดเบือนข้อมูล สำหรับนักเรียนวปอ.รุ่นที่ 61 มีนายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ร่วมงานด้วย

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและแดนลบ ซึ่งช่วงท้ายตลาดมีการดีดตัวขึ้นมาได้ค่อนข้างดี ความไม่แน่นอนอยู่ ในหลายประเด็น ส่วนใหญ่ล้วนเป็นผลกระทบจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก อาทิ ข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน และค่าเงินที่ไหลออกจากกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging Market) ทำให้ดัชนีฯวันนี้ปิดตลาดที่ 1,693.94 จุด  เพิ่มขึ้น 7.57 จุด หรือ +0.45% ขณะที่มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 54,643.55 ล้านบาท

+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 5 ในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงที่เกาะฮอกไกโดเมื่อคืนนี้ รวมทั้งผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นที่พัดกระหน่ำฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่นในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ดัชนีนิกเกอิปิดลบ 92.89 จุด หรือ 0.41% แตะที่ 22,487.94 จุด

+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนจีนเทขายหุ้น อันเนื่องมาจากมุมมองที่เป็นลบเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ดัชนีฮั่งเส็งลดลง 269.03 จุด หรือ 0.99% ปิดวันนี้ที่ 26,974.82 จุด