เจ้าหน้าที่ขนส่งลงพื้นที่ถ.รามคำแหง พบรถโดยสารสาธารณะทำผิด แท็กซี่ไม่จดทะเบียน/จยย.ป้ายดำ

การลงพื้นที่ตรวจรถโดยสารสาธารณะของเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก บริเวณฝั่งขาออก ถนนรามคำแหง นายโฆษิต เอี่ยมลออ หัวหน้าชุดตรวจการที่ 23 กล่าวว่า บริเวณนี้ มีทั้งรถตู้โดยสารสาธารณะ รถแท็กซี่ รถจักรยานยนต์รับจ้าง รวมถึงรถโดยสารประจำทางหรือรถเมล์ ในวันนี้ จึงตรวจรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท เช่น รถตู้โดยสารที่ไม่นำรถไปจดทะเบียนให้ถูกต้อง อุปกรณ์ส่วนควบภายในรถไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ได้มีการติดตั้งอย่างถูกต้อง และนำรถวิ่งนอกเส้นทาง ส่วนการตรวจรถแท็กซี่ เน้นเรื่องนำรถหมดอายุการใช้งานมาใช้ โดยไม่เปลี่ยนประเภทเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล หากเจ้าหน้าที่พบว่ารถคันดังกล่าวหมดอายุการใช้งานแล้ว ถือว่ากระทำความผิดจะดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามขั้นตอนของกฎหมายและถอดป้ายทะเบียนออกทันที

ขณะที่รถจักรยานยนต์รับจ้าง เน้นตรวจรถที่นำป้ายทะเบียนดำ ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมาวิ่งรับส่งผู้โดยสาร ทั้งนี้ ถือเป็นเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสาร และป้องกันกรณีการเรียกเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด พร้อมฝากผู้โดยสารหากพบเห็นการเรียกเก็บค่าโดยสารเกินอัตราสามารถจดจำป้ายทะเบียน หรือชื่อของผู้ขับขี่ที่จะติดไว้บริเวณด้านหลังเสื้อวิน เพื่อแจ้งต่อเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกให้ดำเนินการได้

นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ยังได้ตรวจรถโดยสารประจำทาง ซึ่งจะพบว่า ทั้งภายในและภายนอกตัวรถบางคัน ได้ติดป้ายโฆษณาสินค้าและบริการต่างๆ ทั้งนี้รถเมล์ที่ติดป้ายโฆษณาจะต้องไปขออนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก เพื่อออกเอกสารก่อนและนำเอกสารดังกล่าว แสดงต่อเจ้าหน้าที่ หรือติดไว้บริเวณด้านหน้ารถ รถโดยสารประจำทางจะไม่สามารถติดป้ายโฆษณาภายในหรือภายนอกตัวรถได้ หากยังไม่ได้รับการอนุญาตและออกเอกสารจากทางเจ้าหน้าที่ เพราะถือเป็นเรื่องความปลอดภัย ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เช่น ในโฆษณาบางตัวอาจมีความไม่เหมาะสม หรือติดในส่วนที่ไม่สมควร อาจบังกระจกรถ หรือบังเลขข้างรถ ทำให้ผู้โดยสารไม่เห็นสายรถเมล์ได้อย่างชัดเจน

สำหรับการลงพื้นที่ตรวจรถโดยสารสาธารณะในวันนี้ พบว่ามีรถแท็กซี่กระทำความผิดจำนวน 1 ราย คือนำรถไม่จดทะเบียนหรือรถหมดอายุมาวิ่งรับส่งผู้โดยสาร นอกจากนี้ยังพบรถจักรยานยนต์ป้ายดำ 1 ราย รถตู้โดยสารที่วิ่งออกนอกเส้นทางโดยไม่ได้รับอนุญาต 2 ราย รถโดยสารประจำทางติดป้ายโฆษณา โดยไม่ได้รับอนุญาตจำนวน 4 ราย รวมพบรถโดยสารสาธารณะกระทำความผิดทั้งสิ้น 8 ราย