*ด่านบ้านพุน้ำร้อนจ.กาญฯ คุมเข้มสินค้าผิดกฎหมาย และห้ามแรงงานพม่าลักลอบเข้าเมือง*

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พาสื่อมวลชนลงดูจุดตรวจสกัดการลักลอบเข้าเมือง ที่บริเวณชายแดนบ.พุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งในอนาคตเส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางการขนส่งสินค้าหลัก เชื่อมระหว่างท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ไปที่อำเภอทวาย ประเทศพม่า ร.อ.สมศักดิ์ วรแสน ผู้บังคับกองร้อยทหารพราน1407 เปิดเผยว่า กองร้อยทหารพราน1407  ตั้งอยู่ที่บ.พุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี  ซึ่งเป็นด่านที่คอยตรวจสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองเป็นหลัก และจะคอยตรวจสอบสินค้าที่ผิดกฎหมายทุกประเภท ตามแนวชายแดนไทย -พม่า ตั้งแต่อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ไปถึงอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ซึ่งที่ด่านบ้านพุน้ำร้อนแห่งนี้  ภาระกิจหลักจะคอยสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมือง ของแรงงานพม่าที่จะเดินทางเข้ามาทำงานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และสมุทรสงคราม ส่วนการลักลอบการขนยาเสพติดในจุดนี้ยังพบในปริมาณที่น้อยมาก เนื่องจากอยู่หากไกลจากแหล่งผลิตหลักทางภาคเหนือ และได้มีการร่วมมือกันระหว่างทางเจ้าหน้าที่ทหารไทย -พม่า ที่คอยตรวจสอบอย่างเข้มงวดร.อ.สมศักดิ์ เปิดเผยว่า ในพื้นที่ด่านผ่านแดนบ้านพุน้ำร้อน นี้ยังเป็นชายแดนที่ติดต่อกับ อำเภอเมตตา จ.ทวาย ประเทศพม่า ที่หากออกไปเพียง 4กิโลเมตร ก็จะเข้าเขตประเทศพม่า เส้นทางนี้ในอนาคตจะเป็นเส้นทางหลักในการขนส่งสินค้าเชื่อมระหว่างท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี กับ ท่าเรือน้ำลึกทวาย ประเทศพม่า ที่มุ่งออกสู่มหาสมุทรอินเดีย แต่ขณะนี้ต้องรอการพัฒนาเส้นทางอีก 160 กิโลเมตร จากชายแดนจุดที่บ้านพุน้ำร้อน ไปที่ท่าเรือทวาย เนื่องจากเส้นทางจากชายแดนไทย ไปที่ท่าเรือน้ำลึกทวาย ระยะทาง 160กิโลเมตร ยังเป็นถนนดินแดน ที่ยังไม่พร้อมใช้เป็นเส้นทางการขนส่ง และยังเหลือการทำความร่วมมือระหว่างทางการไทย และพม่า ถึงจะเริ่มเปิดใช้เส้นทางนี้เป็นเส้นทางสายเศรษฐกิจ ทั้งนี้ในด้านการค้าจะมีเพียงการขนส่งสินค้าทางการเกษตร และของใช้บริโภค เช่น ข้าวโพด ,ข้าวสาร ,น้ำมันพืช ส่วนยอดการจับกุมยาเสพติดในปีนี้มีเพียง 2ครั้ง โดยสามารถยึดยาบ้าได้เพียง 10เม็ด หากเทียบกับการจับกุมผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายที่มีถึง 18ครั้ง และสามารถจับกุมและผลักดันกลับประเทศไป 175คน

วิรวินห์