+++หลังจากที่กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า เมื่อเวลา 01.07น. วันที่ 6 กันยายน 2561 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.8 ลึก 10 กิโลเมตร ที่ฮอกไกโด ญี่ปุ่น ไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย
+++สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงวัดขนาดได้ 6.6 บนเกาะฮอกไกโด ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 66 กิโลเมตร และห่าง 62 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองซัปโปโร เมืองหลวงของจังหวัดฮอกไกโด และยังมีอาฟเตอร์ช็อก ตามมาอีกด้วยวัดขนาดได้ 5.3
+++สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น แจ้งว่า ระดับคลื่นในทะเลเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยบริเวณแนวชายฝั่ง เนื่องจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว บ้านเรือนในบางพื้นที่กระแสไฟฟ้าดับ ไม่มีประกาศเตือนภัยสึนามิ
+++ภาพข่าวของสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค เห็นชาวบ้านบางส่วนออกมานอกที่พักอาศัย ภาพกำแพงอิฐแห่งหนึ่งพังถล่ม กระจกบ้านหลังหนึ่งแตก ญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในจุดที่แผ่นเปลือกโลกมาบรรจบกันจึงเกิดแผ่นดินไหวได้บ่อยครั้งรวมทั้งภูเขาไฟระเบิด
+++เมื่อเดือนมิ.ย.เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในเขตโอซาก้า มีผู้เสียชีวิต 5 ศพ บาดเจ็บกว่า 350 คน แต่ที่รุนแรงที่สุดเป็นแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 11 มี.ค.2554 วัดขนาดได้ 9.0 ใต้มหาสมุทรแปซิฟิก ส่งผลให้เกิดคลื่นสึนามิ พัดถล่มชายฝั่งญี่ปุ่น เกิดความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง มีผู้เสียชีวิตกว่า 15,000 คนและสูญหายอีกกว่า 2,500 คน
+++ญี่ปุ่น เพิ่งจะเผชิญกับพายุไต้ฝุ่นรุนแรงในรอบ 25 ปี สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ชายฝั่งตะวันตก มีคนเสียชีวิต 11 ศพและบาดเจ็บกว่า 600 คน ล่าสุด ญี่ปุ่น เริ่มเก็บกวาดทำความสะอาดหลังจากพายุไต้ฝุ่นเชบี เคลื่อนตัวออกนอกประเทศไปแล้ว
+++รายงานแจ้งว่า เมื่อวานนี้ นักท่องเที่ยวราว 3,000 คน ต้องติดค้างอยู่ที่ท่าอากาศยานคันไซ ทางตะวันตกของญี่ปุ่น แต่เมื่อช่วงบ่าย หลายคนสามารถเดินทางออกจากสนามบินได้โดยรถบัส หรือ นั่งเรือออกมาจากสนามบิน
+++นายโยชิฮิเดะ ซูกะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรี กล่าวว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บราว 470 คน ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าสนามบิน จะสามารถเปิดให้บริการได้เมื่อใด คาดว่า อาจจะต้องใช้เวลาราว 1 สัปดาห์ นอกจากนั้น ถนนบางสายและรถไฟบางเส้นทางในเขตที่ได้รับผลกระทบจากพายุ ยังคงปิดให้บริการ ขณะที่ จำนวนบ้านเรือนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ลดลงราวครึ่งหนึ่งเหลือ 5 แสน 30,000 ครัวเรือน นายซูกะ กล่าวว่า รัฐบาลจะดำเนินการอย่างเต็มที่ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนที่สุด
+++หลังสื่อสหรัฐฯ รายงานพบศพหญิงสาว 2 คนในที่พักใกล้กับมหาวิทยาลัยวอชิงตัน เมืองซีแอตเติล ประเทศสหรัฐฯ ต้องสงสัยจะเป็นนักศึกษาชาวไทยที่หายตัวไปกว่า 72 ชั่วโมง น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศ ประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงและรายละเอียดของข่าวนี้
+++เพจ siamtown รายงานว่า เมื่อเวลา 09.20 น. เช้าวันอังคารที่ 4 กันยายน 2018 เจ้าหน้าที่ตำรวจของเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตันและรถพยาบาลฉุกเฉินได้มุ่งหน้าไปที่ Malloy Apartments หลังจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าได้พบศพหญิงสองรายเสียชีวิตในห้องพัก สภาพถูกแทงตามร่างกายอย่างสาหัส คาดว่าเป็นนักศึกษาหญิงไทย ทั้งหมดต้องรอสรุปจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
+++กลุ่มชมรมคนไทยในซีแอตเติล แสดงความเสียใจและขอพื้นที่ส่วนตัวให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต
+++โฆษกของสายการบินเอมิเรตส์ แถลงว่า เครื่องบินโดยสารแอร์บัส ของสายการบินเอมิเรตส์เที่ยวบินอีเค 203 พร้อมผู้โดยสาร 500 คน จากเส้นทางดูไบ สู่จุดหมายปลายทางที่สนามบินจอห์น เอฟ. เคนเนดี้ นครนิวยอร์ก เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.เช้าวันพุธที่ 5 ก.ย.ตามเวลาท้องถิ่น ต้องถูกกักเพื่อตรวจโรค หลังพบผู้โดยสารป่วยบนเที่ยวบิน 10 คน
+++โฆษกสายการบินเอมิเรตส์ แถลงว่า เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินแล้ว ตามมาตรการป้องกันแล้วจะต้องมีเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขของท้องถิ่นตรวจสอบ และพบว่าหากมีใครต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนก็จะต้องรีบดำเนินการทันที ส่วนผู้โดยสารคนอื่นๆที่ไม่พบว่าป่วยหรือยังเป็นปกติ ก็จะได้รับอนุญาตให้ออกจากเครื่องบินได้
+++นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ แถลงในที่ประชุมสภาว่า จากข้อมูลด้านข่าวกรองรัฐบาลอังกฤษ สรุปว่า ชาย 2 คนตามชื่อที่ตำรวจและสำนักงานอัยการของอังกฤษแจ้ง ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองทหารของรัสเซีย 2 คน ประกอบด้วยนายอเล็กซานเดอร์ เปตรอฟ กับนายรัสลัน บอชิรอฟ ถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่าอดีตสายลับรัสเซียแปรพักตร์คือนายเซอร์เก สกรีพัล กับลูกสาวน.ส.ยูเลีย สกรีพัล ด้วยสารพิษโนวีชอกเมื่อเดือนมี.ค. ที่เมืองซาลิสบิวรี ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ และไม่ได้เป็นปฏิบัติการของคนร้าย แต่ค่อนข้างจะแน่นอนว่าได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐ ที่ไม่ใช่หน่วยข่าวกรองทหารรัสเซียให้ลงมือปฏิบัติ นายกรัฐมนตรีเมย์ กล่าวว่า รัสเซียจะต้องควบคุมการกระทำของเจ้าหน้าที่และรับผิดชอบต่อผลของการกระทำด้วย
+++สำนักงานอัยการของอังกฤษ แถลงว่า จะไม่ยื่นคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คนนี้ แต่สำนักงานอัยการของอังกฤษได้รับหมายจับจากกลุ่มประเทศในยุโรปแล้ว ซึ่งก็หมายความว่า หากผู้ต้องสงสัยคนใดคนหนึ่ง เดินทางเข้าไปยังประเทศที่มีหมายจับนี้ ก็สามารถจับกุมตัวและส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้เลย และคดีนี้ไม่มีอายุความด้วย
+++ด้านน.ส.มาเรีย ซาคาห์รอฟ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย แถลงว่า การเปิดเผยชื่อเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองทหารของรัสเซีย 2 คนว่าพยายามสังหารอดีตสายลับแปรพักตร์ของรัสเซียและลูกสาวไม่ได้มีความหมายอะไรต่อทางรัสเซีย คดีนี้ต้องใช้การวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียดและความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างรัฐบาลอังกฤษกับรัสเซีย
+++กรณีนายบ๊อบ วู้ดวาร์ด นักเขียนและนักหนังสือพิมพ์ชื่อดังชาวอเมริกัน เขียนหนังสือเล่มใหม่ชื่อว่า Fear: Trump in the White House (เรื่องที่น่าหวั่นกลัวเมื่อนายทรัมป์ครองทำเนียบขาว)เปิดโปงปัญหาผิดพลาดหลายๆเรื่องเกี่ยวกับการบริหารประเทศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ
+++บีบีซี รายงานว่า นายทรัมป์ ทวีตข้อความตำหนิว่า เป็นนิยายที่ใช้ข้อมูลเท็จ ทั้งในส่วนของเรื่องราวและการอ้างอิงคำพูดของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ
+++ด้านพลเอกจอห์น เคลลีและนางซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกประจำทำเนียบขาว พูดในทำนองเดียวกับนายทรัมป์ กล่าวถึงหนังสือเล่มนี้ว่าเป็นเพียงนวนิยายในแนวบันเทิงคดี ผู้เขียนอาจจะได้ข้อมูลบางส่วนจากการสัมภาษณ์อดีตเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาวบางคนที่ลาออกแล้ว โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่รู้สึกผิดหวังกับการบริหารงานของนายทรัมป์ นอกจากนี้หนังสือเล่มนี้ อ้างว่านายทรัมป์เคยสั่งการให้รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯให้หาวิธีลอบสังหารประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาดของซีเรีย และอ้างอิงคำพูดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนของสหรัฐฯว่า พวกเขามองนายทรัมป์ว่าเป็นผู้นำที่โง่เขลาและชอบพูดจาโกหก
+++หนังสือเล่มนี้จะวางจำหน่ายในร้านขายหนังสือต่างๆในสหรัฐฯ วันที่ 11 กันยายนนี้ เปิดโปงปัญหาสับสนวุ่นวายต่างๆในทำเนียบขาวอีกหลายเรื่องนับแต่นายทรัมป์ เข้ามาทำหน้าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อต้นปี 2560
+++นายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางถึงกรุงอิสลามาบัด และกำหนดเข้าพบนายกรัฐมนตรีอิมราน ข่านของปากีสถาน หวังว่า จะได้ปรับปรุงความสัมพันธ์กัน หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ระงับความช่วยเหลือทางการทหารแก่ปากีสถานมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (9,900 ล้านบาท) สหรัฐฯกล่าวหาว่าปากีสถาน ไม่สนใจปราบปรามกลุ่มติดอาวุธ และยังสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธเช่น ตอลีบาน และฮักกานี ซึ่งก่อเหตุโจมตีอัฟกานิสถานจากแหล่งกบดานตามแนวชายแดนระหว่างสองประเทศ
+++เจ้าหน้าที่ตำรวจบังกลาเทศ เปิดเผยว่า คนขับรถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัยจะไม่ได้รับอนุญาตให้เติมน้ำมันในกรุงธากา เมืองหลวงของบังกลาเทศ นอกจากนั้น รถจักรยานยนต์ จะอนุญาตให้มีคนซ้อนท้ายได้เพียง 1 คน เท่านั้น และจะต้องสวมหมวกนิรภัยด้วย
+++คำสั่งดังกล่าวเกิดขึ้นหลังเกิดเหตุประท้วงทั่วกรุงธากาและเมืองอื่นๆ ทั่วประเทศเมื่อเดือนสิงหาคม นักเรียนหลายพันคนได้เดินขบวนตามท้องถนน เรียกร้องให้ทางการจัดระเบียบความปลอดภัยบนท้องถนนให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น หลังจากเกิดเหตุรถบัสที่ขับด้วยความเร็วสูง ชนวัยรุ่นที่เดินเท้าอยู่ริมถนนเสียชีวิต ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีชีค ฮาสินา และคณะรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบกฎหมายการขนส่งฉบับใหม่ที่มีบทลงโทษผู้กระทำความผิดหนักกว่าเดิมด้วย
CR:BBC