+++เรืออากาศตรี ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.แมนรัตน์ ศรีกรานนท์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล) พ.ศ.2535 ถึงแก่กรรมด้วยโรคชราที่บ้านพัก สิริรวมอายุ 90 ปี 11 วัน ทายาทกำหนดตั้งศพสวดอธิษฐาน ระหว่างวันที่ 7-10 กันยายน 2561 เวลา 19.00 น. ณ โบสถ์วัดพระมหาไถ่ และจัดพิธีฝังส่งวิญญาณ ในวันที่ 11 กันยายน 2561 ณ สุสานศานติคาม
+++เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ซีแอตเทิลไทม์ของสหรัฐฯรายงานอ้างตำรวจในเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตันว่า ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนเรื่องการเสียชีวิตของสตรี 2 ศพในมัลลอย อพาร์ทเมนท์ใกล้กับมหาวิทยาลัยวอชิงตัน เมืองซีแอตเทิลเมื่อเช้าวานนี้ เบื้องต้นตำรวจยังไม่พบบุคคลที่อยู่ในข่ายต้องสงสัย และเป็นภัยคุกคามต่อต่อความสงบสุขของสาธารณชน ระบุว่าผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานนิติเวชวิทยาของเทศมณฑลคิง อยู่ระหว่างการตรวจสอบศพ ด้านเว็บไซต์สยามทาวน์ยูเอส คาดว่า สตรีทั้ง 2 อาจจะเป็นนักศึกษาไทยหลังคาดการติดต่อจากเพื่อนๆนักศึกษากว่า 72 ชม.
+++เรืออากาศเอก ปรารถนา พัฒนศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายความปลอดภัย ความมั่นคงและมาตรฐานการบินบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่ท่าอากาศยานคันไซ เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ได้รับผลกระทบจากพายุเชบี ยังไม่สามารถกลับมาให้บริการได้ตามปกติ บริษัทฯ จึงมีความจำเป็นต้องขอแจ้งยกเลิกเที่ยวบิน ไป-กลับ เส้นทาง กรุงเทพฯ-โอซากา ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 5-11 กันยายน 2561 ดังนี้ เที่ยวบิน ทีจี 672 ออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 08.25 น. และเดินทางถึงท่าอากาศยานคันไซ เมืองโอซากา เวลา 15.55 น. (เวลาท้องถิ่น) เที่ยวบิน ทีจี 673 ออกเดินทางจากท่าอากาศยานคันไซ เมืองโอซากา เวลา 17.35 น. (เวลาท้องถิ่น) และเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 21.25 น. เที่ยวบิน ทีจี 622 ออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 23.30 น. และเดินทางถึงท่าอากาศยานคันไซ เมืองโอซากา เวลา 07.00 น. ของวันรุ่งขึ้น (เวลาท้องถิ่น) และเที่ยวบิน ทีจี 623 ออกเดินทางจากท่าอากาศยานคันไซ เมืองโอซากา เวลา 11.45 น. (เวลาท้องถิ่น) และเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 15.35 น.
+++นอกจากนี้ ผู้โดยสารที่ถือบัตรโดยสารการบินไทย ในเส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-โอซากา ที่ระบุวันเดินทางระหว่างวันที่ 3-15 กันยายน 2561 บริษัทฯ จะอำนวยความสะดวกโดยยกเว้นค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนแปลงบัตรโดยสาร รวมทั้งสามารถเปลี่ยนเส้นทางบินเป็นเส้นทางอื่นภายในประเทศญี่ปุ่นที่เป็นจุดบินของการบินไทย ได้แก่ โตเกียว (ท่าอากาศยานนาริตะ/ฮาเนดะ) นาโกยา ฟุกุโอกะ ซัปโปโร โดยจะสามารถเปลี่ยนแปลงการเดินทางได้ ภายในวันที่ 15 กันยายน 2561
+++นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า เขื่อนภูมิพล จ.ตาก และเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ ได้ปรับลดการระบายน้ำลง รวมทั้งปริมาณฝนที่ตกในภาคกลางน้อยลง ทำให้น้ำท่าที่ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาตรต่ำลง สำหรับเขื่อนเจ้าพระยาได้ลดน้ำไหลผ่านจาก 820 เหลือ 800 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาด้านท้ายเขื่อนลดลงตามไปด้วย การปรับลดการรับน้ำเข้าระบบชลประทานเหนือเขื่อนเจ้าพระยาทั้ง 2 ฝั่งยังก่อให้เกิดผลดีต่อประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมคลองชัยนาท-ป่าสัก ในเขต จ.ลพบุรี และ จ.สระบุรี พื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำท่าจีน ในเขต จ.สุพรรณบุรี จ.นครปฐม พื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำน้อย บริเวณ อ.เสนา และ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ได้รับผลกระทบก่อนหน้านี้ ทำให้ระดับน้ำลดลงประมาณ 10 – 15 เซนติเมตร
+++ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปิดวันนี้ที่ระดับ 1,686.37 จุด ลดลง 28.04 จุด มูลค่าการซื้อขาย 60,127.45 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหว ในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,711.37 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,685.95 จุด ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงเช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย จากความกังวลวิกฤตค่าเงินของหลายประเทศ เช่น ตุรกี, อาร์เจนตินา, อินโดนีเซีย, อินเดีย ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัว อีกทั้งปีนี้-ปีหน้าก็ยังไม่มีเม็ดเงินตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เข้ามาลงทุนแล้ว ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงเงินจะไหลออก โดยเฉพาะประเทศที่พึ่งพิงเงินทุนไหลเข้ามากก็จะได้รับผลกระทบ และประเทศที่มีการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดสูงก็จะเปราะบาง ส่วนไทยถือว่ายังแข็งแกร่ง
+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงในวันนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของพายุไต้ฝุ่น "เชบี" ขณะที่ข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนนั้น ได้ฉุดหุ้นที่เกี่ยวข้องกับจีนร่วงลงด้วย ดัชนีนิกเกอิปิดร่วงลง 116.07 จุด ที่ 22,580.83 จุด
+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวลดลง 729.49 จุด ที่ 27,243.85 จุด
+++ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำข้าราชการเดินออกกำลังกายจากทำเนียบรัฐบาลมาที่บ้านพิษณุโลก ซึ่งเป็นบ้านประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงบ้านพิษณุโลกได้ทักทายผู้สื่อข่าวที่ปักหลักรอทำข่าวอยู่ด้านหน้าพร้อมกล่าวทักทายสวัสดีกับผู้สื่อข่าว ส่วนกระแสข่าวว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีเพื่อเตรียมความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งว่าเป็นข่าวลือและการนั่งเทียนเขียนข่าวไปกันเองตนเองยังไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรีใดใดทั้งสิ้นวันนี้ยืนยันและพูดชัดแล้ว สำหรับการออกกำลังกายครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในหลายรอบเดือน หลังจากเคยพาข้าราชการในสังกัดวิ่งออกกำลังกายรอบทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 25 เมษายน ซึ่งในครั้งนี้นายกรัฐมนตรีปั่นจักรยานรอบบ้านพิษณุโลก3รอบ
+++หลัง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน ออกมาระบุอยู่ระหว่างดำเนินการปรับเพดานอัตราการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม จากฐานเงินเดือน 15,000 บาท เป็น 20,000 บาท หรือเก็บจาก 750 บาท เป็น 1,000 บาท ดร.วิโรจน์ ณ ระนอง ผู้อำนวยการวิจัย ด้านเศรษฐศาสตร์สาธารณสุขและการเกษตร สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ เปิดเผยว่า เห็นด้วยในการปรับเพดานอัตราการจ่ายเงินสมทบจากฐานเงินเดือน 15,000 บาท เป็น 20,000 บาท เนื่องจากเพดานฐานเงินเดือน 15,000 บาทนี้ ถูกใช้มาตั้งแต่เมื่อเริ่มตั้งกองทุนประกันสังคมเมื่อปี 33 ซึ่งคิดว่าถดถอยอย่างชัดเจน รวมถึงหากเทียบกับบัตร 30 บาท พบว่าบัตร 30 บาทมีค่ารักษาต่อหัวปรับขึ้นทุกๆ ปี ตรงกันข้ามกับประกันสังคมปรับขึ้นค่ารักษาต่อหัวช้ากว่าบัตร 30 บาท และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ก็ไม่ดี โดยผลจากการทำวิจัยว่า กองทุนประกันสังคมในอนาคตจะขาดทุน ไม่ยั่งยืนในระยะยาว ดังนั้นควรรีบปรับเพดานฐานเงินเดือนการจ่ายสมทบ ให้กองทุนประกันสังคมมีความมั่นคงอยู่ได้ เพื่อเพิ่มอัตราค่ารักษาต่อหัว และสิทธิประโยชน์ระยะยาว กรณีเงินชดเชยบำนาญจะได้รับเพิ่มขึ้น
+++ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ผู้ถูกฟ้องคดี ชดใช้เงินให้แก่ นายประภัสร์ จงสงวน (ผู้ฟ้องคดี) กรณีการเลิกจ้างเป็นผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยก่อนครบกำหนดในสัญญาจ้าง เนื่องจากศาลฯเห็นว่า เมื่อสัญญาจ้างผู้ฟ้องคดีมีกำหนดเวลาจ้างตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2555 ถึงวันที่ 17 พฤษภาคม 2558 แต่สิ้นสุดลงก่อนครบกำหนดเวลาจ้าง โดยผู้ฟ้องคดีไม่ได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาและผู้ถูกฟ้องคดีไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า อีกทั้งการเลิกจ้างก็ไม่เข้าเหตุตามข้อ 5.3 ของข้อกำหนดในสัญญาที่กำหนดให้ผู้ถูกฟ้องคดีมีสิทธิเลิกจ้างผู้ฟ้องคดีโดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า ดังนั้น รฟท.(ผู้ถูกฟ้องคดี) จึงต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าเท่ากับอัตราจ้างเดือนสุดท้ายหนึ่งเดือน และรับผิดชดใช้เงินค่าตอบแทนเท่ากับค่าจ้างเดือนสุดท้ายของผู้ฟ้องคดีคูณด้วยระยะเวลา 6 เดือน รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 3,139,452.05 บาท (รวมดอกเบี้ย)