การนัดหารือระหว่างรัฐบาลกับพรรคการเมือง นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การหารือดังกล่าว ควรจะเกิดขึ้นหลัง ร่างพ.ร.ป.เกี่ยวกับการเลือกตั้งอีก 2 ฉบับ โปรดเกล้าฯ แล้ว แต่ไม่จำเป็นต้องรอให้มีคำสั่งตามมาตรา 44 เพื่อคลายล็อคให้ทำกิจกรรมทางการเมือง แต่หากรอให้ทุกอย่างเสร็จสิ้นทั้งหมดตามกระบวนการก็จะเป็นเรื่องที่ดี ไม่จำเป็นต้องนัดหารือในทันที แต่เมื่อเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน หากนัดได้เร็วก็จะเป็นการดี ส่วนที่พรรคการเมือง กังวลเกี่ยวกับระยะเวลาในการหาเสียงเลือกตั้งจะเพียงพอหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากคำนวณตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ เชื่อว่าจะมีเวลาในการหาเสียงเพียงพอ เพราะน่าจะมีเวลามากกว่า 60 วัน ขณะที่ การใช้แอพพลิเคชั่นไลน์ พรรคการเมือง สามารถใช้ติดต่อกับสมาชิกพรรคได้ แต่จะใช้เป็นช่องทางหาเสียงไม่ได้ ซึ่งการหาเสียงจะทำได้ เมื่อมีการปลดล็อคทางการเมืองแล้ว
นายวิษณุ กล่าวถึง กฎหมายการเลือกตั้งท้องถิ่นว่า การเลือกตั้งท้องถิ่น ตามกรอบเวลาน่าจะเกิดขึ้นได้ ภายหลังจากที่มีการเลือกตั้งทั่วไปแล้ว ตามกฎหมาย ระบุว่า หากจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่น ต้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) หรือ คณะรัฐมนตรี(ครม.)เป็นผู้กำหนด ไม่ใช่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
ส่วนความเป็นไปได้ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะลงเล่นการเมืองในอนาคต ว่า ส่วนตัวไม่ทราบ แต่ตามขั้นตอนทางกฎหมาย อันดับแรก นายกรัฐมนตรี ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ เพราะตามรัฐธรรมนูญหากจะลงสมัครรับเลือกตั้ง จะต้องลาออกจากตำแหน่งก่อนหน้านี้ ดังนั้นจะต้องใช้ช่องทางอื่นตามรัฐธรรมนูญ คือต้องมีเสียงข้างมากในสภาฯ เห็นชอบ ซึ่งต้องไปดูว่าพรรคการเมืองได้เสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นมาหรือไม่ เพราะหากไม่มีการเสนอชื่อ ก็จะถือว่าเป็นบุคคลภายนอก
กระแสข่าวมีรัฐมนตรีจะลาออกจากตำแหน่ง นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ขณะที่ การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนว่า นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าหารือกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ห้องทำงาน เท่าที่ทราบในวันนั้น นายสมคิด ติดภารกิจและไม่ได้อยู่ในห้องทำงาน เป็นเรื่องที่สื่อฯนำเสนอกันไปเอง
แฟ้มภาพ