การตรวจสอบร้านสักลายบริเวณถนนข้าวสาร โดยนายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ลงพื้นที่และตรวจจำนวน 2 ร้าน พบว่า ได้มาตรฐานและมีใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2558 อย่างถูกต้อง พร้อมกล่าวว่า พื้นที่กรุงเทพมหานคร มีร้านสักลายขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ จำนวน 50 ร้าน ประกอบด้วยพื้นที่เขตพระนคร 17 ร้าน และกระจายอยู่ในเขต อื่นๆ อีก 33 ร้าน
การสักลายเป็นกิจการอันตรายต่อสุขภาพ เจ้าของกิจการจึงต้องดำเนินการยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการตามกฎหมาย ที่สำนักงานเขตที่กิจการนั้นตั้งอยู่ เมื่อยื่นขอใบอนุญาตแล้วเจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจอุปกรณ์ ความสะอาด เพื่อสุขอนามัยที่ถูกต้อง รวมทั้งเจ้าของกิจการหรือผู้สักต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ไม่ป่วยเป็นโรคติดต่อร้ายแรง เพราะหากไม่ดำเนินการให้ถูกต้อง ก็มีความเสี่ยงที่ผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการจะติดเชื้อได้
ส่วนประชาชนก่อนใช้บริการต้องระมัดระวังและตรวจสอบใบอนุญาตประกอบกิจการตามร้านสักลาย พร้อมทั้งสังเกตว่าเครื่องมือเครื่องใช้ภายในร้านมีความสะอาดหรือไม่ โดยหลังจากนี้ได้กำชับ 50 เขต เร่งสำรวจตรวจสอบร้านสักลายที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ หากพบต้องหยุดกิจการและไปดำเนินการยื่นขอใบอนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมายก่อน ส่วนร้านสักลายที่ตั้งริมทางเท้า หรือมีลักษณะเป็นแผงจร ไม่สามารถดำเนินการได้ตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของเมือง พ.ศ.2535 และประกาศกระทรวงสาธารณสุขพ.ศ.2558
ส่วนการสักตามสำนักสงฆ์หรือวัด ได้มอบหมายให้ทางสำนักอนามัยประสานกับกระทรวงสาธารณสุข ไปพูดคุย ทำความเข้าใจ เนื่องจากการสักลายมี 2 รูปแบบ คือเพื่อความสวยงาม และตามความเชื่อ ตามประเพณีซึ่งมานาน จึงต้องให้ข้อแนะนำให้ปฏิบัติตาม สุขลักษณะ การสักลายยังไม่มีกฎหมายควบคุมที่ชัดเจน นอกจากมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้นผู้ประกอบการบางราย จึงต้องการให้มีการจดทะเบียนวิชาชีพด้านการสักลายถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งกรุงเทพมหานครจะรับไปพิจารณาต่อ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครยังกล่าวถึง
ส่วนการร่างพระราชบัญญัติการประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพว่า ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภากรุงเทพมหานครแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างแก้ไขบางประเด็น คาดว่าภายในปี 2561 หากทุกอย่างเรียบร้อย จะสามารถประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเพื่อมีผลบังคับใช้ต่อไป
ส่วนกรณีผู้เสียชีวิต 4 ราย หลังเดินทางไปสักลาย ที่ร้านบริเวณคลองหลอด เบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตได้ติดเชื้อ HIV มาก่อนแล้ว 1 ปีและเสียชีวิตลงเมื่อเดือนสิงหาคม ซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการสักลาย โดยร้านสักลายดังกล่าวได้หยุดกิจการหลังไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ