นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) จะเกษียณอายุราชการสิ้นเดือนนี้ หลังจากกลับเข้ามาทำหน้าที่ในตำแหน่งตามที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน เพียง5 เดือน ซึ่งนายถวิล กล่าวว่า ตลอด5เดือนได้สะสางงานต่างๆที่ค้างไว้เพื่อเตรียมส่งต่อให้คณะทำงานชุดใหม่ ซึ่งตอนนี้ได้เสนอชื่อเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติคนใหม่ต่อรัฐบาลแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อเนื่องจากยังอยู่ระหว่างการรอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ส่วนการแก้ปัญหาพื้นที่ชายแดนใต้ ที่มีกลุ่มเห็นต่างจากรัฐบาลหลายกลุ่ม บางส่วนยังใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายไม่ประสงค์ให้เกิดความรุนแรง เน้นการเจรจาหาข้อยุติ ผ่านการพูดคุย ซึ่งที่ผ่านมามีการพูดคุยมาโดยตลอดแต่ไม่เป็นผลเพราะจุดอ่อนคือการไว้ใจซึ่งกันและกัน และการมีส่วนร่วมของหน่วยงานต่างๆขาดการเชื่อมโยงกัน สัปดาห์หน้าพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง จะลงพื้นที่ภาคใตั มอบนโยบายการทำงานส่วนราชการ และการทำงานหลังจากนี้ การพูดคุยเพื่อหาขอยุติจะต้องสร้างความไว้ใจเพื่อนำไปสู่การลดหรือยุติความรุนแรง รวมถึงแผนการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน เบื้องต้น ได้มีการประสานกับประเทศมาเลเซีย เพื่อยืนยันให้มาเลเซียทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการพูดคุยต่อไป ส่วนรายละเอียดชุดเจรจาว่าจะประกอบด้วยใครบ้าง จะต้องรอความชัดเจนจากนายกรัฐมนตรี
ส่วนการอพยพย้ายถิ่นของชาวพม่า ที่เข้ามาอาศัย4จังหวัดของประเทศไทยกว่า1แสนคน นานกว่า30ปี จากเหตุการสู่รบภายในประเทศพม่า ล่าสุด สมช.มีการเสนอเรื่องดังกล่าว ต่อนายกรัฐมนตรี ให้พิจารณาพูดคุยกับประเทศพม่า เพราะจากการประเมินสถานการณ์ในพม่า พบว่า ความรุนแรงจากการสู้รบต่างๆเริ่มยุติลงแล้ว รวมถึงพม่าเริ่มมีความเป็นประชาธิปไตยที่ชัดเจน ยืนยันว่า ไทยไม่ประสงค์ผลักดันประชากรกลุ่มนี้เพื่อสร้างภาระให้พม่า แต่จะช่วยอำนวยความสะดวกเมื่อพม่าพร้อมที่จะรับประชากรกลับ เบื้องต้นรัฐบาลพม่าเข้าใจและพร้อมรับประชากรกลับประเทศแต่ขอเวลาเตรียมการเพราะปัญหาการสู้รบต่างๆแม้จะลดลงแต่ก็ยังคงอยู่ ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับพม่าช่วงนี้ถือว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีมาก โดยไทยยืนยันกับพม่า ว่าไม่มีนโยบายสนัลสนุนกลุ่มที่เป็นปฏิปักษ์กับพม่าในทุกด้าน ทั้งนี้นายถวิล คาดว่า หลังจากนายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนประเทศมาเลเซีย และพม่า น่าจะมีความชัดเจนในนโยบายทั้งหมดมากขึ้น
บุศรินทร์