+++ความรุนแรงของพายุไต้ฝุ่นเจบิ ที่ขึ้นฝั่งเกาะชิโกกุ ซึ่งเป็นเกาะหลักที่เล็กที่สุด เมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ตามเวลาญี่ปุ่น จากนั้นเคลื่อนตัวไปทางภาคตะวันตกของเกาะฮอนชูที่เป็นเกาะใหญ่ที่สุด และมุ่งหน้าขึ้นเหนืออย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า วัดลมกระโชกแรงได้ถึง 208 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในบางพื้นที่ของเกาะชิโกกุ
+++สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นถึง 9 ศพ มากกว่า 300 คนได้รับบาดเจ็บ ความแรงของพายุทำให้มีความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน การจราจรทั้งทางบก และทางอากาศ ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศได้รับผลกระทบ รถไฟความเร็วสูง หยุดให้บริการชั่วคราว ขณะที่สายการบินต่างๆยกเลิกเที่ยวบินในประเทศกว่า 750 เที่ยว สนามบินนานาชาติคันไซ บนเกาะฮอนชู ที่ถูกน้ำท่วม ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว ส่วนการบินไทย ยกเลิกเที่ยวบินไปญี่ปุ่น เมื่อคืนนี้ เวลา 23.00 น. และเช้านี้ยกเลิกเที่ยวบินเวลา 08.00น.
+++ความแรงของลม ซัดรถบรรทุกน้ำมันคันหนึ่ง พลิกคว่ำชนกับขอบสะพานทางด่วนแห่งหนึ่งที่เชื่อมโยงระหว่างสนามบินกับเมืองอิซุมิซาโนะ จังหวัดโอซากา นับเป็นพายุไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดที่พัดถล่มญี่ปุ่นในรอบ 25 ปี คือ 216 กม.ต่อชม. หน่วยยามฝั่ง แจ้งว่า กระแสลมแรงพัดเรือบรรทุกน้ำมันระวางขับน้ำ 2,591 ตัน ชนสะพานบนเกาะเทียมที่สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมท่าอากาศยานนานาชาติคันไซบนแผ่นดินใหญ่ สะพานเสียหาย โชคดีที่เรือไม่ได้บรรทุกน้ำมัน และลูกเรือปลอดภัย ชาวเมืองโกเบ ทวีตว่า ลมแรงถึงกับทำให้อาคารพักอาศัยสั่นไหว ต้นไม้กิ่งก้านหัก ส่วนกรุงโตเกียวแม้อยู่ห่างจากศูนย์กลางไต้ฝุ่นแต่ก็เสี่ยงจะมีฝนตกหนักและลมแรงภายในวันนี้
+++ก่อนหน้านี้ที่พายุจะขึ้นฝั่ง ญี่ปุ่น ประกาศให้ประชาชนกว่าล้านคน อพยพและยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมากเพราะกระแสลมแรงจัดและฝนตกหนัก จากเดิมที่แนะนำให้อพยพกว่า 3 แสนคน ประชาชนทางฝั่งตะวันตกไม่มีไฟฟ้าใช้ราว 1 แสน 77,000 ราย นายกฯ ชินโซะ อาเบะ ของญี่ปุ่น แจ้งเตือนประชาชนฝั่งตะวันตกและตอนกลางของประเทศประมาณ1 ล้าน 9แสนคนขอให้ออกจากพื้นที่
+++ไปที่ประเทศจีน หน่วยบรรเทาทุกข์ ยังคงให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยจากฝนตกหนักในเมืองซัวเถา มณฑลกวางตุ้งทางภาคใต้ เจ้าหน้าที่สถานีสูบน้ำ เร่งดำเนินการเต็มกำลังเพื่อสูบน้ำออกจากพื้นที่ ฝนตกหนัก ทำให้เมืองซัวเถาได้รับความเสียหายร้ายแรง น้ำท่วมพื้นที่ 29 เขต กระทบประชาชนกว่า 1 ล้าน 4 แสนคน รัฐบาลท้องถิ่น มอบหมายให้คณะทำงาน 1,944 คน ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนประสบอุทกภัย และจัดตั้งศูนย์ฉุกเฉิน สำหรับประชาชนกว่า 2,134 แห่ง
+++เจ้าหน้าที่อินเดีย กล่าวว่า โรคฉี่หนูและโรคระบาดอื่นๆ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 14 ศพในรัฐเกรละทางภาคใต้ ภายหลังประสบอุทกภัยร้ายแรงในรอบเกือบ 100 ปี รัฐบาล แถลงว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยในฤดูฝนเพิ่มขึ้นเป็น 486 ศพ และประชาชนกว่า 1 ล้านคน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนในรัฐเกรละเมื่อเดือนที่แล้ว ขณะนี้ สถานการณ์น้ำท่วมบรรเทาลงแล้ว แต่ประชาชนเกือบ 10,000 คน ยังต้องอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ฤดูฝนในเอเชียใต้ มีช่วงเวลาตั้งแต่เดือนมิถุนายน-กันยายน ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากและความเสียหายรุนแรงทุกปี
+++สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน ว่า ประธานาธิบดีฮัสซัน โรว์ฮานี ของอิหร่าน กล่าวว่า การส่งออกน้ำมันได้ย้ายจากสถานีบนเกาะคาร์ก ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในอ่าวเปอร์เซีย ไปยังเมืองจาสค์ ในทะเลโอมาน แล้ว การเคลื่อนย้ายจะเสร็จสิ้นภายในวาระการดำรงตำแหน่งของเขา ซึ่งจะสิ้นสุดลงในปี พ.ศ. 2564 การย้ายสถานีไปยังทะเลโอมาน จะทำให้อิหร่านสามารถส่งออกน้ำมันได้ต่อไป แม้ว่าช่องแคบฮอร์มุซจะถูกปิด
+++ช่องแคบฮอร์มุซ เป็นจุดผ่านน้ำมันที่สำคัญที่สุดในโลก ประมาณร้อยละ 35 ของการขนส่งน้ำมันทางเรือ ต้องผ่านช่องแคบนี้ รายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุว่า อิหร่านส่งออกน้ำมันวันละ 2.1 ล้านบาร์เรล ในเดือน ส.ค.แต่บรรดานักวิเคราะห์ กล่าวว่า มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ อาจลดการขายน้ำมันของอิหร่าน ลงเหลือวันละประมาณ 1 ล้านบาร์เรล
+++นางออง ซาน ซู จี ผู้นำเมียนมา ยังคงไม่แสดงท่าทีใดในขณะที่หลายฝ่ายต่างเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้สื่อข่าวสำนักข่าวรอยเตอร์ 2 คนที่ถูกควบคุมตัวในเมียนมา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกล่าวชี้แจงว่า นางซูจี ไม่ต้องการวิจารณ์กระบวนการยุติธรรม นายวา โลน วัย 32 ปี และนายจ่อ โซ อู่ วัย 28 ปี ถูกจับขณะรายงานข่าวเหตุการณ์ความรุนแรงกับชาวมุสลิมโรฮิงญาราว 7 แสนคน เมื่อปีที่แล้ว ศาลย่างกุ้ง ตัดสินว่า มีความผิดตามกฎหมายความลับทางราชการและต้องถูกลงโทษจำคุกคนละ 7 ปี ก่อให้เกิดเสียงประท้วงไม่พอใจจากสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และสหรัฐฯ รวมทั้งสื่อและกลุ่มสิทธิต่างๆ
+++นางซูจี ซึ่งเคยถูกรัฐบาลเมียนมากักบริเวณร่วม 15 ปี และอาศัยสื่อต่างชาติในการนำเสนอข่าวของเธอมาโดยตลอดจนได้บริหารประเทศ กลับถูกวิจารณ์อย่างหนักที่ยังคงนิ่งเฉยต่อคำตัดสินของศาล อย่างไรก็ตาม นายออง ฮลาตุน อดีตผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีฝ่ายสื่อสาร ชี้แจงว่า การที่นางซูจี นิ่งเฉย เพราะไม่ต้องการวิจารณ์การทำงานของศาลและกระบวนการยุติธรรม ด้านทนายความของผู้สื่อข่าวสองคน จะยื่นอุทธรณ์คำตัดสิน และประธานาธิบดีมีอำนาจในการให้อภัยโทษได้
+++บีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ทวีตข้อความแสดงความไม่พอใจกรณีนายเจฟฟ์ เซสชันส์ อัยการสูงสุด มีคำสั่งเมื่อเดือนที่แล้วให้ฟ้องศาลเพื่อดำเนินคดีกับส.ส.2 คนจากพรรครีพับลิกันคือนายคริสโตเฟอร์ คอลลินส์ในข้อหาใช้ข้อมูลวงในซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และนายดันแคน ฮันเตอร์และภริยาในข้อหาทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ด้วยการนำเงินสนับสนุนการเลือกตั้งที่รัฐจัดสรรให้ไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว
+++นายทรัมป์ ระบุว่า คำสั่งฟ้องคดีของนายเซสชันส์ จะกระทบต่อโอกาสในการชนะการเลือกตั้งกลางเทอมของส.ส.และสว.ของพรรครีพับลิกัน การทวีตข้อความดังกล่าวทำให้เกิดกระแสวิจารณ์อีกครั้งหนึ่งว่า นายทรัมป์ พยายามจะใช้อิทธิพลเข้าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมสหรัฐฯโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย เรื่องนี้มีขึ้นก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมในวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งพรรคเดโมแครต มั่นใจที่จะแย่งชิงที่นั่งส.ส.และสว.ส่วนใหญ่คืนมาจากพรรครีพับลิกัน
CR:NHK