ปลัดสธ.เผยพรุ่งนี้ เสนอผลหารือปัญหาร่างพรบ.ยา ต่อรมว.สธ.เบื้องต้น กลับไปใช้กม.ปี2510

ภายหลังหารือร่วมกับเครือข่ายวิชาชีพเภสัชกรรม จาก6 สถาบันการศึกษา และเครือข่าย กลุ่มวิชาชีพ. เพื่อให้ได้ข้อสรุปร่างพ.ร.บ. ยา ที่มีปัญหา และเกิดกระแสคัดค้าน  โดยใช้เวลาหารือนานกว่า 3 ชม.

นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่าเบื้องต้นได้ข้อสรุป 2 ส่วน ที่เป็นปัญหา 1 . ในส่วนของการให้วิชาชีพอื่นสามารถสั่งจ่ายยาได้นั้น ที่เป็นข้อถกเถียงในวงกว้าง ให้กลับไปใช้ มาตรา 13 (3 ) ของพ.ร.บ.ยา 2510 เดิม ที่ยังกำหนดให้ ผู้สั่งจ่ายยาได้ เป็น แค่ 3 วิชาชีพ คือ แพทย์ ทันตแพทย์ และสัตวแพทย์ เท่านั้น  ไม่ได้ขยายให้สาขาวิชาชีพอื่น 2. ปัญหาเรื่องยา ยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งเรื่องนี้จะต้องนำมาหารือแก้ไขกันต่อไป เนื่องจาก มีปัญหาเรื่องการแบ่งยาจากเดิมมี 3 ประเภท ยาอันตราย ยาควบคุม และยาสามัญประจำบ้าน  ซึ่งในร่างพ.ร.บ ยา ฉบับใหม่กลับมียากลุ่มประเภทที่ 4 คือ ยาแผนปัจจุบันไม่ใช่ยาอันตรายหรือควบคุมพิเศษ และสามารถจำหน่ายในร้านขายยา และขายปลีกและขายส่ง แต่ไม่ได้ระบุว่าอยู่ในกลุ่มยาประเภทไหน จึงจะต้องมีการหารืออีกครั้ง ซึ่งวันนี้พรุ่งนี้ ( 5 ก.ย.)เตรียมรายงานต่อรมว.สธ.

ภก.จิระ  วิภาสวงษ์ ประธานชมรมเภสัชสาธารณสุขแห่งประเทศไทย กล่าวว่า พอใจกับการแก้ไขปัญหาของกระทรวงสาธารณสุขระดับ 1 แต่ก็เหมือนกับว่าที่เรียกร้องกลับมาได้เท่าเดิม ตาม พ.ร.บ.ยา ฉบับเดิม 2510  แต่ก็ยังดีที่มีการกำหนดให้ผู้สั่งจ่ายยาได้ยังเป็นกลุ่มเดิม แต่อย่างไรก็ตามยังอยากเห็นการจ่ายยาในกลุ่มเภสัชกรเท่านั้น เพื่อให้คนสั่ง และคนจ่ายเป็นคนละคนจึงจะเกิดการเช็คและตรวจสอบที่ดีเพราะในขณะนี้  สัดส่วนของเภสัชกรก็มีเพิ่มจำนวนมากขึ้น 

ส่วนของการแบ่งยา ก็ยังคงถกเถียงเพราะเกิดยาประเภท ที่ 4 เพิ่มขึ้นมา อย่างไรก็ตามเห็นว่า ควรเร่งแก้ไขปัญหา ร่างพ.ร.บ.ยา ให้แล้วเสร็จอย่างน้อยในเดือนธันวาคม ก่อนการเลือกตั้ง 24 ก.พ. 2562