หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการตัดสินใจอนาคตทางการเมือง หลังเคยบอกไว้ว่าจะเปิดเผยในเดือนกันยายน ว่า เรื่องนี้ได้คิดไว้แล้วในห้องประชุมว่าต้องถูกถาม จึงขอตอบว่าจะชัดเจนเมื่อร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส และ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาแล้ว รวมถึงมีการปลดล็อคพรรคการเมือง เพื่อเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งและไปสู่การมีประชาธิปไตย ที่สมบูรณ์ ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้จะมีผลต่อการตัดสินใจของตนเองว่าจะอยู่ตามรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ โดยจะตัดสินใจได้ในช่วงนั้น เพื่อทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของชาติและบ้านเมืองไปสู่การปฏิรูปและเป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ นั่นคือคำตอบของตนเอง จึงขออย่าถามเรื่องนี้บ่อย เพราะยังไม่ถึงเวลา
ส่วนกรณี นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือนปช.อีสาน นำประชาชนชาว อ.ครบุรี และ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา จำนวนกว่า 40 คน เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต.ประจำจังหวัดนครราชสีมา เพื่อชี้แจงตรวจสอบขอเท็จจริงพรรคภูมิใจไทยมีการเก็บบัตรประชาชนเพื่อนำไปสมัครสมาชิกพรรคการเมืองที่อ้างว่าเตรียมความพร้อมก่อนคลายล็อคนั้นการเคลื่อนไหวของพรรคภูมิใจไทยถือว่าทำได้หรือไม่นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเป็นเรื่องของ กกต.พิจารณา และในส่วนของ คสช.ฝ่ายกฎหมายก็กำลังพิจารณาอยู่ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ส่วนการตัดสินใจของแนวทางการใช้ระบบไพรมารี่โหวตในการเลือกตั้งครั้งนี้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะต้องแก้ในการปลดล็อคพรรคการเมือง เพราะขณะนี้มีบางพรรคการเมืองที่มีปัญหา และไม่มีปัญหา จึงขออย่าทำให้เกิดความขัดแย้ง เพราะยืนยันว่าการเลือกตั้งต้องเป็นไปตามกำหนดระยะเวลา ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการหารือว่าจะทำอย่างไรให้การเลือกตั้งเกิดผลกระทบให้น้อยที่สุด เพราะหากไม่ทำไพรมารี่โหวตเลยก็คงไม่ได้ จึงต้องให้เวลาและดูความพร้อมของพรรคและสมาชิกพรรค เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนผ่านทางการเมืองในอนาคต