ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 3 กันยายน 2561 ช่วงเที่ยง

03 กันยายน 2561, 12:43น.


น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขเงินเฟ้อเดือนสิงหาคม 2561 อยู่ที่ 102.27 สูงขึ้นร้อยละ 1.62 เทียบกับสิงหาคม 2560 ซึ่งเป็นการสูงขึ้นต่อเนื่องเดือนที่ 14 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.26 เทียบกับกรกฎาคม 2561 ส่งผลให้เงินเฟ้อ 8 เดือน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.12 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของหมวดอื่นๆที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มร้อยละ 2.10 ส่วนหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่มร้อยละ 0.77 โดยกระทรวงพาณิชย์คาดการณ์เงินเฟ้อทั้งปี 2561 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8-1.6



ส่วนสถานการณ์น้ำ นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ เปิดเผยว่า ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีปริมาณฝนมากกว่าภาคอื่นๆ ส่งผลให้แม่น้ำในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก มีระดับน้ำเพิ่มขึ้น แม่น้ำโขงมีน้ำสูงกว่าระดับตลิ่งที่ จ.หนองคาย จ.นครพนม จ.มุกดาหาร และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก



สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เขื่อนวชิราลงกรณ และ เขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี และ เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก



ในช่วงเช้านี้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้ว ประจำปีงบประมาณ 2561 โดยมีของกลางที่รวบรวมได้จากทั่วประเทศทั้งสิ้น  2,101,347 ชิ้น มูลค่ารวม 1,374 ล้านบาท



รัฐบาลจีนสั่งปิดเว็บไซต์ของสำนักข่าว ออสเตรเลียน บรอดคาสติง คอร์ปอเรชัน หรือ เอบีซี เนื่องจากฝ่าฝืนกฎหมายความมั่นคงทางไซเบอร์ หลังจากที่เว็บไซด์ข่าวให้บริการข่าวสารเป็นภาษาจีนมาเป็นเวลาประมาณ 1 ปี เอบีซี ยืนยันว่าถูกทางการจีนปิดเว็บไซต์และแอปพลิเคชันมาตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งได้รับคำตอบว่า สำนักงานควบคุมดูแลกิจการอินเทอร์เน็ตแห่งชาติจีน (CAC) ยินดีให้บริษัทสื่ออินเทอร์เน็ตทั่วโลกเผยแพร่ข่าวสารที่ดีต่อผู้ใช้ในจีน แต่ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดกั้น กรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวลือ, สื่อลามกอนาจาร, การพนัน, ลัทธิก่อการร้ายหัวรุนแรง และข้อมูลผิดกฎหมายบางอย่างที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐ และบั่นทอนความภาคภูมิใจในชาติ



ธนาคารแห่งสาธารณรัฐประชาชนลาว (BOL) ออกคำเตือนประชาชนให้ระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อการใช้สกุลเงินดิจิทัล รวมถึงบิทคอยน์ อีเธอเรียม และไลท์คอยน์ เนื่องจากพบโฆษณาที่มีลักษณะโน้มน้าวให้มีการตัดสินใจซื้อ-ขาย และใช้สกุลเงินดิจิทัล ซึ่งเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยง นอกจากนี้ยังต้องการปกป้องประชาชนจากการฟอกเงิน การให้เงินสนับสนุนการก่อการร้าย หรือการทำธุรกรรมที่เป็นอันตรายอื่นๆ อีกด้วย



...

ข่าวทั้งหมด

X