ธุรกิจสินค้าเกษตรในจีน เสี่ยงต่อการเผชิญกับวิกฤติ เนื่องจาก การขาดแคลนวัตถุดิบสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถั่วเหลือง หลังทางการจีน ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ร้อยละ 25 เมื่อเดือนที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้การตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากจีนของรัฐบาลสหรัฐฯ และจีนเป็นผู้นำเข้าสินค้ารายใหญ่ที่สุดจากสหรัฐฯ โดยจีน เป็นผู้นำเข้าถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดในโลก ส่วนใหญ่นำไปใช้เป็นอาหารเลี้ยงไก่และสุกร และเมื่อปีที่แล้ว จีนนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 384,000 ล้านบาท เมื่อรัฐบาลจีน ขึ้นภาษีถั่วเหลืองนำเข้าจากสหรัฐฯ ก็ทำให้ถั่วเหลืองนำเข้ามีราคาสูงขึ้นมากจนเกษตรกรจีนไม่สามารถจ่ายได้ ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า ประเด็นนี้อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่สำหรับจีนในอนาคตอันใกล้ หากว่าข้อพิพาททางการค้ายังไม่ได้ข้อยุติโดยเร็ว และเป็นสิ่งที่เรียกว่าสงครามการค้าอย่างแท้จริง
นอกจากนั้น มีรายงานว่า มาตรการกำแพงภาษี ทำให้เรือขนส่งถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ ต้องอยู่กลางทะเลเป็นเวลาหลายสัปดาห์ เพราะไม่สามารถขนส่งสินค้าให้ลูกค้าชาวจีนได้ก่อนที่มาตรการกำแพงภาษีมีผลบังคับใช้ ขณะที่ ผู้นำเข้าถั่วเหลืองในจีน เริ่มหาแหล่งวัตถุดิบจากประเทศอื่นทดแทนแล้ว เช่น บราซิล อาร์เจนติน่า แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของธุรกิจจีน และส่งผลให้ถั่วเหลืองจากบราซิลมีราคาสูงขึ้น นอกจากนั้น จีน ยังพยายามแก้ปัญหาถั่วเหลืองนำเข้าจากสหรัฐฯ มีราคาสูงด้วยการเพิ่มปริมาณการปลูกถั่วเหลืองเพื่อทดแทนการนำเข้าด้วย
ทีมต่างประเทศ
CR:CNN Money