ทันสถานการณ์โลก 31 สิงหาคม 2561

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ แถลงว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในประกาศผ่อนปรนโควตาเหล็กจากเกาหลีใต้ บราซิล และอาร์เจนตินา กับให้ผ่อนปรนโควตาอะลูมิเนียมจากอาร์เจนตินา โดยผู้ประกอบการส่งออกจากประเทศเหล่านี้ สามารถยื่นขอรับการยกเว้นโควตาได้โดยอยู่บนพื้นฐานที่ว่าผู้ผลิตเหล็กหรืออะลูมิเนียมสหรัฐฯ มีผลิตภัณฑ์ในปริมาณหรือคุณภาพที่ไม่เพียงพอ ซึ่งจะทำให้ได้รับยกเว้นโควตา และไม่ต้องจ่ายภาษีในอัตราร้อยละ 25 และร้อยละ 10

นอกจากนี้ ประธานาธิบดี ทรัมป์ยังมีความเห็นว่าข้อตกลงการค้าฉบับใหม่ระหว่าง สหรัฐฯ กับแคนาดาน่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ภายในวันนี้ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด ของแคนาดายืนยันว่า ข้อตกลงฉบับใหม่จะต้องส่งผลดีต่อแคนาดา

โดยผู้เจรจาการค้าของ 2 ประเทศมีการประชุมหารือกันต่อเนื่องตั้งแต่วันพุธจนถึงวันพฤหัสบดี โดยประเด็นสำคัญอยู่ที่ระเบียบแหล่งที่มาของรถยนต์และสิทธิแรงงาน

ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับเกาหลีเหนือ ประธานาธิบดี ทรัมป์ กล่าวโทษจีน ว่าทำให้การปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีไม่คืบหน้า เพราะยังมีการจัดส่งทั้งเงินงบประมาณ และสิ่งของต่างๆ ให้กับเกาหลีเหนือ ส่วนเรื่องการซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้ ประธานาธิบดี ทรัมป์ กล่าวว่า ยังไม่มีเหตุผลที่จะใช้จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อการซ้อมรบ แต่จะฟื้นการซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่นหากจำเป็น และเมื่อนั้นจะเป็นปฏิบัติการที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่เคยมีมาก่อน

อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์ของเกาหลีใต้รายงานว่า ในเดือนธันวาคมนี้ สหรัฐฯกับเกาหลีใต้จะมีการซ้อมรบเป็นปฏิบัติการทางอากาศ "วิจิแลนต์ เอซ"

ที่เมียนมา มีเหตุเขื่อนแตกทางภาคกลางคือ เขื่อนสวาร์ ภูมิภาคพะโค ทำให้มีน้ำหลากเข้าร่วมพื้นที่เกษตรกรรมและหมู่บ้านประมาณ 85 แห่งในเมืองสวาร์และเยดาเช มีผู้ได้รับความเดือดร้อน 63,000 คน โดยมากกว่า 12,600 คน พักอยู่ในศูนย์พักพิงประมาณ 30 แห่ง ระบบโครงสร้างพื้นฐานเสียหายทั้งสะพานและถนนหลวงระหว่างเมืองย่างกุ้งกับเมืองมัณฑะเลย์ และระหว่างเมืองย่างกุ้งกับกรุงเนปิดอว์

โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่ปิดรอยร้าวของเขื่อนเอาไว้ได้แล้ว แต่พื้นที่ใต้เขื่อนยังมีน้ำท่วมสูง

จีนปฏิเสธข่าวเรื่องการส่งทหารเข้าไปปฏิบัติภารกิจในอัฟกานิสถาน ตามที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าจีนส่งเจ้าหน้าที่ทหารหลายร้อยนายจากกองทัพปลดปล่อยประชาชนไปประจำการอยู่ในค่ายทหารทางตะวันออกของอัฟกานิสถาน ซึ่งกระทรวงกลาโหมจีน รายงานด้วยว่าจีนมีพรมแดนติดต่อกับอัฟกานิสถานและมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์และความรุนแรงที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลืออัฟกานิสถาน

ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย แถลงว่า ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน กำลังพิจารณาที่จะเดินทางไปเยือนประเทศฝรั่งเศสในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ตามคำเชิญอย่างเป็นทางการเพื่อร่วมงานรำลึกเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1

จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน นักเศรษฐศาสตร์จีนของมอร์แกน สแตนเลย์ มีความเห็นว่าเศรษฐกิจจีนจะไม่ได้รับผลกระทบมากจากสงครามการค้า เนื่องจากมีการออกมาตรการรองรับ แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจอาจลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 6.4 ในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า จากที่เติบโตร้อยละ 6.8 ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

ทั้งนี้จีนและสหรัฐฯ ต่างประกาศเป้าหมายการเก็บภาษีอีกฝ่ายรวม 2 รอบเป็นเงินประมาณ 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเตรียมประกาศเพิ่มเติมในรอบที่ 3 ในเดือนหน้าอีก  2 แสนล้านดอลลลาร์ และมีข้อมูลการผลิตล่าสุดที่ชี้ว่า สหรัฐฯมี คำสั่งซื้อสินค้าส่งออกจากจีนลดลง

ส่วนผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลกหรือไอซีไอ ลดลงต่ำสุดในรอบ 18 เดือนในเดือนสิงหาคมคือ 94.3 ซึ่งถือว่าต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งอยู่ที่ 91.2  เนื่องจากความเชื่อมั่นในอเมริกาเหนือลดลงจาก 103.1 มาอยู่ที่ 92.5 และเอเชียลดลงมาอยู่ที่ 102.6 ขณะที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในยุโรปเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 99.5

ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 74 เซ็นต์ ปิดที่ 70.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 63 เซนต์ ปิดที่ 77.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดในแดนลบเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วัน

ดาวโจนส์ ลดลง 137.65 จุด หรือร้อยละ 0.53 ปิดที่ 25,986.92 จุด

เอสแอนด์พี ลดลง 12.91 จุด หรือร้อยละ 0.44 ปิดที่ 2,901.13 จุด

แนสแดค ลดลง 21.32 จุด หรือร้อยละ 0.26 ปิดที่ 8,088.36 จุด

…