*สภาทนายความช่วยคดีด.ญ.10ขวบถูกชายวัย61ปีล่วงละเมิดทางเพศที่พังงา และมีพฤติกรรมข่มขู่ให้กลับคำให้การ*

สภาทนายความแถลงข่าวร้องขอการช่วยเหลือจากหน่วยงานของรัฐ หลังสภาทนายความรับการร้องขอให้ช่วยเหลือ กรณีเด็กหญิงอายุ 10 ปี ถูกล่วงละเมิดทางเพศนานนับเดือน นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ เปิดเผยว่า  ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจาก นาวสาว ก. อายุ 29 ปี ว่า เด็กหญิง เอ บุตรสาว อายุ 10 ปี ถูก ล่วงละเมิดทางเพศจาก นาย เล็ก (นามสมมุติ) อายุ 61 ปี หลายครั้ง ซึ่งเป็นคนที่อยู่แถวบ้าน ในพื้นที่อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา โดยสังเกตเห็นว่า ลูกสาว มีเงินใช้ซื้อขนม มากกว่าปกติ จึงได้ถามกับลูกสาวทำให้ทราบว่า นายเล็ก จะให้เงิน ครั้งละ 50-100 บาท ทุกครั้ง ที่มีการล่วงละเมิดทางเพศ โดย นางสาว ก. ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรตะกั่วป่า โดยพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวและฝากขังผู้ต้องหาพร้อมแจ้งข้อหาพรากเด็กญิงอายุไม่เกิน15ปีไปจากบิดามารดาเพื่อกระทำอนาจาร กับ ศาลจังหวัดตะกั่วป่า และเด็กหญิง เอ ได้ถูกส่งให้ศูนย์ประชาบดี จังหวัดดูแล  แต่ต่อมา นายเล็ก ได้รับการประกันตัวและได้รับการปล่อยตัวช่วยคราว และเมื่อได้รับการปล่อยตัว ก็มีกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์ มาวนเวียนก่อกวน บริเวณหน้าบ้านของ นางสาว ก. และบริเวณ ด้านหน้าศูนย์ประชาบดี ที่เด็กพักอยู่ จนทำให้เด็กสาว เอ เกิดความกลัวจนไม่กล้าไปโรงเรียน และญาติของผู้ต้องหาได้มีการติดต่อขอมอบเงินให้จำนวน 5 แสนบาท เพื่อให้ผู้เสียหายกลับคำให้การ และยังได้มีการติดต่อจะขอให้เด็กสาวแต่งงานกับผู้ต้องหาเพื่อเปลี่ยนแปลงรูปคดี แต่แม่ของเด็ก ปฏิเสธ  และในระหว่างที่ต้องจัดการเรื่องคดีความ ทำให้แม่ของเด็ก ต้องขาดงานบ่อย จนเป็นเหตุให้หน่วยงานต้นสังกัด ไล่ออก โดยภายหลังจากที่ถูกคุกคาม แม่ของเด็ก  ก็ได้เข้าแจ้งความและนำเอกสารใบแจ้งความไปยื่นร้องต่อศาล จนต่อมาศาลได้มีการเรียกตัวผู้ต้องหาเข้าไปสอบถาม แต่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ศาลจึงได้ทำการตักเตือนและสั่งห้ามไม่ให้ผู้ต้องหาและญาติเข้ายุ่งเกี่ยวกับผู้เสียหาย แต่นางสาว ก.รู้สึกไม่มั่นใจจึงเข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อสภาทนายความ

เมื่อสภาทนายความได้รับเรื่องเข้ามาดูแล จะให้การช่วยเหลือโดยการรับเรื่องคดีความเป็นตัวกลางในการเข้าช่วยเหลือประสานงานกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยกรมคุ้มครองสิทธิ  และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  โดยขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานข้างต้นในเรื่องการช่วยเหลือดูแลความปลอดภัย และสวัสดิภาพของ เด็ก และแม่ กรณีที่ยังไม่สามารถเข้ารับการศึกษา และแม่ของเด็กยังคงตกงาน ให้ช่วยในการหาโรงเรียนในการศึกษา และจัดหางานให้แม่ของเด็ก และให้ช่วยดูแลและหามาตรการป้องกันเหตุการณ์ประเภทนี้ และหากการประสานงานกับหน่วยงานดังกล่าวไม่มีความคืบหน้า ก็จะมีการทำหนังสือไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ให้ช่วยดูแลคดีประเภทการล่วงละเมิดทางเพศแก่เด็ก ที่ปัจจุบันมีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในขณะนี้  แม่ของเด็กและเด็กผู้เสียหาย ทางสภาทนายความ  ได้ให้เดินทางมาอยู่ในความดูแลของสภาทนายความที่กรุงเทพ ในระหว่างที่รอการรวบรวมหลักฐานและผลการพิสูจน์เพิ่มเติมจากพนักงานสอบสวน ในการส่งฟ้องต่อศาล 

สานนท์