ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 30 สิงหาคม 2561 เวลา 19.35น.

+++นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ใน 1-2 เดือนนี้ จะเป็นช่วงฝนตกชุกที่สุดของปี จึงได้กำชับกรมชลประทาน ให้ดูแลการบริหารจัดการน้ำให้ดีและมีผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด พร้อมแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้า นายกฤษฎา กล่าวถึง แนวทางบริหารจัดการน้ำจากนี้ไปว่าหากมีน้ำเอ่อเข้าพื้นที่มาจาก 2 สาเหตุ คือ ภัยธรรมชาติและการเบี่ยงน้ำตามแผนบริหารจัดการน้ำ ซึ่งจะต้องทำล่วงหน้า โดยเป็นการเบี่ยงน้ำไปพักในพื้นที่เกษตร เพื่อไม่ให้ท่วมชุมชนและพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ โดยจะใช้ถ้ำหลวงโมเดลมาเป็นต้นแบบเบี่ยงน้ำเข้าที่พื้นที่เกษตรกรรับน้ำเพื่อช่วย 13 คนทีมหมูป่าอคาเดมีออกมา ซึ่งพื้นที่ของเกษตรกรอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายที่เสียสละรับน้ำสมควรได้รับคำขอบคุณและหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ ได้เข้าไปช่วยเหลือปลูกข้าวใหม่ทั้งสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่เหมาะสมกับพื้นที่และระยะเวลาปลูก ได้รับปัจจัยการผลิตและถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต เกษตรกรผู้เสียสละเหล่านี้ต้องได้รับการช่วยเหลือพิเศษ มากกว่าค่าชดเชยจากภัยพิบัติที่กระทรวงการคลังกำหนดไว้ โดยกระทรวงเกษตรฯ กำลังหาแนวทางช่วยเรื่องค่าเสียโอกาสของเกษตรกรที่ผลผลิตเสียหาย

+++ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. เป็นประธานการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 วงเงิน 3 ล้านล้านบาท ในวาระ 2 และ 3 ซึ่งมีทั้งสิ้น 61 มาตรา กรรมาธิการฯ พิจารณาปรับแก้ไป 54 มาตรา  ที่ประชุมสนช.ลงมติเอกฉันท์ด้วยคะแนน 206 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ผ่านความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 เพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป

+++นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว เสนอรายงานต่อที่ประชุม ยืนยันว่าการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ได้รับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายอย่างรอบด้าน เป็นการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ได้พิจารณาปรับลดงบประมาณลง จำนวน 24,222,829,100 บาท เป็นโครงการที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และมีผลการดำเนินงานล่าช้ากว่าแผนงาน และนำงบประมาณส่วนที่ปรับลดไปปรับเพิ่มให้หน่วยงานที่มีงบประมาณและแผนงานรองรับอย่างชัดเจนที่สอดคล้องกับแผนปฏิรูประเทศ

+++นายอภิศักดิ์ ชี้แจงว่า การเป็นเจ้าภาพจัดประชุมอาเซียนปี 2562 ทำให้รัฐบาลต้องจัดการประชุม ทั้งระดับรัฐมนตรี เศรษฐกิจ และประชุมอื่น ๆ จึงต้องจัดสรรงบประมาณเพื่อรองรับให้ประเทศไทยดำเนินการได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตามที่ประเทศไทยได้รับคำชมจากนานาประเทศมาแล้ว

+++นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี จะรับข้อสังเกต ข้อแนะนำต่าง ๆ ไปพิจารณา เพราะเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการและการใช้จ่ายงบประมาณ นายกรัฐมนตรีได้กำชับในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่าให้ส่วนราชการและหน่วยงานต่าง ๆ ใช้จ่ายงบประมาณ บนพื้นฐานยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และฐานแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ

+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปิดตลาดบ่ายปรับลดลง 1.83 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,720.43 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,101.08 ล้านบาท

+++การลงทุนในตลาดหุ้นนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ทำสถิติปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 8 ท่ามกลางมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและแคนาดา บวก 21.28 จุด ปิดที่ระดับ 22,869.50 จุด

+++การลงทุนในตลาดหุ้นฮั่งเส่ง ฮ่องกง ร่วง 252.39 จุด ปิดที่ 28,164.05 จุด ก่อนที่ทางการจีนจะเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตและบริการเดือนส.ค.ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะชะลอตัวลง ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐฯ

+++พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติตรีภูวัน (Tribhuvan International Airport) เมื่อเวลา 10.25 น. ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ ครั้งที่ 4 (4th Bimstec Summit) ระหว่างวันที่ 30-31 สิงหาคม 2561 ณ กรุงกาฐมาณฑุ สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล  มีนายอิศวอร์ โพเครล  (Mr. Ishwor Pokhrel) รองนายกรัฐมนตรี และภริยา รอให้การต้อนรับ 

ช่วงเที่ยงวันนี้ นายกรัฐมนตรี พร้อมผู้นำ Bimstec  จะเข้าเยี่ยมคารวะ นางพิทยา เทวี ภันฑรี (The Right Honourable Bidya Devi Bhandari ) ณ ชีตาล นีวาส (Sheetal Niwas) ทำเนียบประธานาธิบดีเนปาล ก่อนจะมีพิธีเปิดการประชุมผู้นำความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ ครั้งที่ 4 ( Fourth BIMSTEC Summit)  อย่างเป็นทางการ

+++นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)กล่าวถึง กรณีที่นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ระบุว่า การทำงานของป.ป.ช.ล่าช้าว่า การทำงาน ป.ป.ช. ไม่ได้ล่าช้า ตามที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เพราะยึดหลักการ ในเรื่องหลักฐาน ที่จะต้องมีเวลาและขั้นตอน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทำให้บางครั้งจะต้องใช้เวลา เช่น เรียกพยานมาสอบ บางครั้งพยานจะขอเลื่อน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยป.ป.ช.ฉบับใหม่ ต้องการให้ ป.ป.ช.ทำงานเร็วขึ้น คือ ทำงานให้แล้วเสร็จ ภายใน 2 ปี ขยายได้ 1 ปี ไม่เกิน 3 ปี ก็จะทำให้ ป.ป.ช. ทำงานเร็วขึ้น มีการวางกฎเกณฑ์ ระเบียบใหม่ เพื่อลดขั้นตอนที่ไม่สำคัญ โดยไม่กระทบความเป็นธรรม

+++นายวรวิทย์ กล่าวถึง ความคืบหน้าคดีนาฬิกาหรู ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ว่า อยู่ระหว่างการรอหลักฐานจากต่างประเทศ เพราะได้มีการส่งหนังสือไปยังต่างประเทศ เพื่อขอข้อมูลนาฬิกาที่สมบูรณ์ และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

+++คดีนายวิโรจน์ สำราญเกตุ อายุ 50 ปี ก่อเหตุยิงกรอกปาก นางมานิต คงวิเศษ อายุ 55 ปี ที่บ้านไม้ชั้นเดียวยกสูงริมคลองหนองจรเข้บัว ซอยร่วมมิตรพัฒนา แยก 10 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานายวิโรจน์ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว กล่าวว่า ช่วงแรกเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุระเบิดปิงปอง มีผู้เสียชีวิต จึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ และพบว่าในจุดเกิดเหตุพบหัวกระสุนปืนลูกซองสั้น เมื่อนำตัว นายวิโรจน์ มาสอบก็ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิงผู้ตาย แต่ตำรวจยังพบว่าลูกชายวัย 17 ปีของนายวิโรจน์ อยู่ในช่วงเกิดเหตุด้วย แต่ได้หนีไป จึงควบคุมตัวไปสอบสวน ลูกชายได้พาไปชี้จุดที่ฝังปืนอยู่หลังบ้าน ได้แจ้งข้อหาทั้งนายวิโรจน์และลูกชาย ฐานร่วมกันฆ่าคนตาย และร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนสาเหตุนายวิโรจน์ รับว่าเป็นผู้ยิง ขณะที่ลูกชายเป็นคนนำปืนไปฝัง เข้าข่ายการกระทำที่ผิดกฎหมาย เบื้องต้นได้ตรวจคราบเขม่าดินปืนเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของทั้งคู่ส่งให้ พฐ. ตรวจสอบ คาดใช้เวลา1 สัปดาห์จะทราบผลว่าใครเป็นคนยิงกันแน่

+++ผกก.สน.คันนายาว กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตกับนายวิโรจน์ ไม่ได้เป็นร่างทรง แต่นายวิโรจน์มีพฤติกรรมชอบรับพรมน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ให้กับคนทั่วไป พร้อมกับมีของขลัง ก่อนเกิดเรื่อง ผู้เสียชีวิตพาเพื่อนมารดน้ำมนต์เท่านั้น ผู้ต้องหายังให้การวกวน ทำให้ยังไม่ทราบมูลเหตุที่แท้จริง ว่าทำไมถึงทำให้มีปากเสียงกัน ส่วนเรื่องการฝากขัง นายวิโรจน์ จะดำเนินการในวันที่ 31 ส.ค. สำหรับลูกชายวัย 17 ปี จะนำตัวส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลางต่อไป

+++บรรษัทกระจายเสียงเอ็นเอชเค รายงานอ้างเจ้าหน้าที่ธนาคารหลายคนของญี่ปุ่นว่าธนาคารระดับภูมิภาคหลายแห่งในประเทศญี่ปุ่นเริ่มรับรู้ถึงผลกระทบจากนโยบายตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในแดนลบของธนาคารกลางของญี่ปุ่น นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังประสบปัญหาเรื่องจำนวนประชากรของประเทศมีแนวโน้มลดลงและมีจำนวนประชากรวัยสูงอายุมากขึ้น

+++ธนาคารแห่งเมืองนาโกยา มองเห็นปัญหาต่างๆที่จะเกิดขึ้นในสังคมญี่ปุ่นในระยะยาว จึงเริ่มจัดทำบริการใหม่ๆที่แตกต่างจากธนาคารอื่นๆเพื่อเพิ่มรายได้ โดยธนาคารแห่งนี้จับมือกับบริษัทไอบีเจ ซึ่งมีสำนักงานในกรุงโตเกียว เริ่มให้บริการจัดหาคู่ พร้อมทั้งจัดงานปาร์ตี้สำหรับคนโสด เจ้าหน้าที่ของธนาคาร ระบุว่าบริการใหม่เช่นนี้จะเกิดผลดีต่อสังคมญี่ปุ่นในภาพรวมคือจะช่วยทำให้มีคู่สมรสใหม่ๆ สามีภรรยาใหม่ และมีบุตรเพิ่มขึ้น ธนาคารดังกล่าวจะจัดหาข้อมูลต่างๆที่มีประโยชน์ให้กับบรรดาคนโสด เพื่อให้พวกเขามีโอกาสเจอคนที่เหมาะจะเป็นแฟนกันในอนาคต และจะจัดงานปาร์ตี้เลือกคู่เพื่อแต่งงานกันต่อไป

+++กรณีนายกรัฐมนตรีลี เซียนลุงของสิงคโปร์ เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่ารัฐบาลมีแผนจะเสนอให้องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(ยูเนสโก)ลงมติรับรองสิงคโปร์ว่าเป็นมหานครที่มีอาหารริมถนนที่มีรสชาติอร่อย สะอาดปลอดภัยและราคาถูกที่สุดในโลก พร้อมทั้งระบุว่า สิงคโปร์ มีร้านแผงลอยขนาดเล็กริมทางอยู่จำนวนมาก ขายอาหารหลายชนิด เช่น ข้าวมันไก่ ก๋วยเตี๋ยวและเนื้อปิ้ง-ย่าง ต่างๆในราคาถูก เรื่องนี้จึงสะท้อนเอกลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดอย่างหนึ่งของชุมชนเมืองในสิงคโปร์

+++สองเชฟชื่อดังของมาเลเซียคือ นายเรดซูอาวัน อิสมาอิล หรือที่รู้จักกันในนามว่าเชฟวัน และเชฟอิสมาอิล อาหมัด แสดงความไม่เห็นด้วย โดยระบุว่า ร้านอาหารริมถนนในมาเลเซียกับร้านอาหารริมถนนในสิงคโปร์ขายอาหารเหมือนกันแทบทุกอย่าง แต่ร้านอาหารริมถนนในมาเลเซีย ขายอาหารที่หลากหลายและมีรสชาติอร่อยกว่าในสิงคโปร์ พร้อมทั้งระบุว่า มาเลเซียเป็นดุจสวรรค์ของเหล่านักชิมอาหาร พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่า แม้แต่ชาวสิงคโปร์จำนวนมากนิยมเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวในมาเลเซียก็นิยมไปนั่งรับประทานอาหารของร้านอาหารริมถนนในเมืองท่องเที่ยวต่างๆของมาเลเซีย จะเห็นได้ว่า ประเทศเพื่อนบ้านทั้งสองประเทศมีปัญหาพิพาทแม้แต่ในเรื่องเล็กๆน้อยๆเช่นนี้มาตั้งแต่สิงคโปร์ได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักรเมื่อปี 2508

แฟ้มภาพ