การลงพื้นที่ของกรมการขนส่งทางบก ในการตรวจรถโดยสารสาธารณะ บริเวณอาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายสาโรจน์ มะคำไก่ เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงาน นำเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตรวจรถโดยสารสาธารณะ และรถแท็กซี่ที่กระทำผิดกฎหมาย บริเวณอาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 10 สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเน้นการบังคับใช้กฎหมายสำหรับรถแท็กซี่ รถสาธารณะ เช่น การตรวจสอบเรื่องการนำรถเข้าเช็คระยะตามรอบที่กำหนด การตรวจรอบมิเตอร์ ที่รถแท็กซี่โดยสารอายุไม่เกิน 7 ปี ต้องนำรถเข้าตรวจทุก 6 เดือน แต่หากรถแท็กซี่โดยสารที่มีอายุเกิน 7 ปีจะต้องนำรถเข้าตรวจทุก 4 เดือน การต่อใบอนุญาต การชำระภาษี การนำรถที่หมดอายุการใช้งานมาให้บริการ และด้านอื่น ๆ เรื่องความปลอดภัยของตัวรถ
เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ โดยใช้ข้อมูลทะเบียนรถเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งมีความแม่นยำและอัพเดต เพื่อตรวจเช็ค โดยระบบดังกล่าว สามารถตรวจเช็คได้ทั้งวันจดทะเบียนรถ วันสิ้นอายุภาษี วันเข้าตรวจรอบมิเตอร์และนำรถเข้าตรวจครั้งล่าสุดเมื่อใด ซึ่งจะสามารถตรวจสอบข้อมูลได้อย่างละเอียดและถูกต้อง ว่ารถโดยสารสาธารณะคันนั้น ๆ ปฏิบัติอย่างถูกต้องมีการนำรถเข้าตรวจรอบมิเตอร์ มีการต่ออายุภาษีตามกฎหมายกำหนดหรือไม่ ซึ่งระบบดังกล่าว สามารถตรวจรถยนต์ได้ทั้งโดยสารสาธารณะได้ทุกประเภท รวมทั้งตรวจสอบรถส่วนบุคคลได้ด้วยเช่นกัน
จากการลงพื้นที่ในวันนี้พบว่ามีผู้ขับรถแท็กซี่สาธารณะกระทำผิดจำนวน 10 ราย เป็นการกระทำผิดตามพ.ร.บ.ขนส่ง 2 ราย โดยเป็นรถบัสโดยสารไม่ประจำทาง กระทำความผิดในเรื่องการติดอุปกรณ์ส่วนควบไม่ถูกต้อง กระจกร้าว และติดตั้งเบาะที่นั่งกีดขวางทางออกฉุกเฉิน และความผิดตามพ.ร.บ.รถยนต์อีก 8 ราย ซึ่งเป็นรถแท็กซี่สาธารณะ แบ่งเป็นการกระทำความผิดในการใช้รถไม่จดทะเบียน ไม่แสดงบัตรหน้ารถ และแต่งกายไม่สุภาพ
ทั้งนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ได้เปรียบเทียบปรับและออกใบสั่งเป็นที่เรียบร้อยแล้วยังได้พูดคุยทำความเข้าใจกับผู้ขับขี่รถแท็กซี่โดยสารสาธารณะ โดยกำชับให้ไปดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายทั้งในเรื่องการนำรถเข้าตรวจรอบมิเตอร์และการต่ออายุภาษี รวมไปถึงข้อปฏิบัติที่ถูกต้องในการขับขี่รถสาธารณะและการให้บริการรถสาธารณะกับผู้โดยสารอีกด้วย ซึ่งผู้ขับขี่รถสาธารณะได้รับฟังและรับปากจะไปดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี