ตร.ให้ผู้เสียหายดูของกลาง หลังจับโจรอุ้มหมา ก่อเหตุนานกว่า15ปี เสียหายไม่ต่ำกว่า10ล้าน

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดีแก๊งโจรอุ้มหมา ที่ตำรวจภูธรภาค1 หลังจากตำรวจภูธรภาค 1 ตามจับโจร 2 สามี-ภรรยา คือ นายอภิชาติ บุญเรือง อายุ 42 ปี และน.ส.อุษา เกษมณี หรือ ฑิญาตา บุญเรือง อายุ 38 ปี  ผู้ต้องหาก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ ด้วยการอุ้มเด็กที่เป็นลูกของทั้งคู่ หรืออุ้มสุนัขเบี่ยงเบนความสนใจของผู้เสียหาย ก่อนจะก่อเหตุลักทรัพย์ ในขณะผู้เสียหายเผลอ หรือละสายตาจากทรัพย์สิน ซึ่งก่อเหตุในหลายท้องที่ ทั้งตำรวจภูธรภาค 1,2,7 และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ทำมานานกว่า 15 ปี จนมีผู้เสียหายรวม 52 คน มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท มีหมายจับร่วมกัน ณ ขณะนี้ 17หมายจับ

สำหรับการจับกุมครั้งนี้ตำรวจภูธรภาค1 ร่วมกับเจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.ปทุมธานี จับกุมสองสามีภรรยาผู้ต้องหาลักทรัพย์ที่กำลังต้องการตัวได้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ภายในซอยพหลโยธิน 52 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. พร้อมของกลางจำนวนมาก เช่น กระเป๋า เงินสด เครื่องประดับ พระเครื่อง ตั๋วจำนำ โทรศัพท์มือถือ บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต บัญชีธนาคาร ใบขับขี่ แว่นตาหลายยี่ห้อ รวมทั้งอาวุธปืน ที่ต้องนำไปตรวจสอบว่ามีทะเบียนหรือไม่ ได้มาจากการซื้อหรือขโมยมา และทรัพย์สินอื่นๆอีกจำนวนมาก รวมทั้งรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ 5คัน สามารถตรวจยึดมาได้ 3 คัน คือ nissan almera สีดำ ป้ายแดง ศ 4430กทม. , toyota fortuner สีขาว ทะเบียน 7กฆ 5515กทม. ,และ toyota camry สีบรอนซ์ทอง ษจ 8432 กทม. โดยอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจยึดอีก 2คัน เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ระบุว่าทำเดือนละประมาณ 10 ครั้ง

นอกจากนี้ มีผู้เสียหายหลายสิบคน ได้เดินทางมาชี้ของกลางที่ตำรวจภูธรภาค1 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น คาดว่า กระทำกัน 2คน สามี ภรรยา ที่สามารถหลบหนีมาได้กว่า 15 ปี เพราะเวลาผ่านด่านตรวจต่างๆ จะใช้บัตรประชาชนผู้อื่นที่ขโมยมา ให้เจ้าหน้าที่ตรวจ และสลับรถใช้ก่อเหตุ ทำให้ยากต่อการจับกุม

ผู้สื่อข่าว: วริศรา ชาญบัณฑิตนันท์